ยังไม่เจอตัว "เจ้าสาวล่องหน" หายตัววันวิวาห์ หมอดูบอกพ่อแม่ ไม่เกิน 7 วันกลับมาแน่

ยังไม่เจอตัว "เจ้าสาวล่องหน" หายตัววันวิวาห์ หมอดูบอกพ่อแม่ ไม่เกิน 7 วันกลับมาแน่

ยังไม่เจอตัว "เจ้าสาวล่องหน" หายตัววันวิวาห์ หมอดูบอกพ่อแม่ ไม่เกิน 7 วันกลับมาแน่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(4 ม.ค.63)  ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.จินดารัตน์ หรือ หมวย อายุ 23 ปี ชาวบ้านบ้านนกยูง ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หายตัวปริศนาในวันแต่งงาน เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2562 ที่ผ่านมา ปล่อยให้เจ้าบ่าวรอเก้อ โดยก่อนจะหายตัวไปได้ น.ส.หมวย บอกกับพ่อแม่ว่าจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ในตัวอำเภอสตึก ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเงินที่ฝ่ายเจ้าบ่าวโอนเข้าบัญชีมาให้ เพื่อเก็บสะสมไว้เป็นค่าสินสอดในงานแต่ง  กระทั่งถึงฤกษ์เข้าพิธีเวลา 09.00 น. เจ้าสาวกลับหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ ทั้งครอบครัว ญาติพี่น้อง และฝ่ายเจ้าบ่าวพากันออกตามหาแต่ก็ไม่เจอ จนปัจจุบันเป็นเวลา 4 วันแล้ว 

>> เจ้าบ่าวสุดช้ำ ทำงานหาค่าสินสอดโอนให้แฟนเก็บ ถึงวันแต่งเจ้าสาวหายปริศนา

ล่าสุดพ่อและแม่ของ น.ส.หมวย ก็ได้หันพึ่งไสยศาสตร์ด้วยการเดินทางไปดูดวงกับหมอไสยศาสตร์ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตามหาลูกสาวในอีกทางหนึ่ง ซึ่งทันทีที่หมอถามชื่อ-นามสกุล ของน้องหมวย หมอก็บอกว่ายังปลอดภัยดี เพื่อนๆ รู้แต่ไม่ยอมบอก และคาดว่าไม่เกิน 7 วันลูกสาวก็จะกลับมาบ้านเอง ซึ่งทันทีที่พ่อแม่ได้ยินว่าลูกสาวยังปลอดภัย ก็รู้สึกโล่งใจและคลายความกังวลลงบ้าง จากที่ก่อนหน้านี้กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงลูกสาวมาก เพราะติดต่อลูกสาวไม่ได้เลยไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนกับใคร และมีอันตรายหรือไม่   

นายอุดม พ่อ น.ส.หมวย บอกว่า หลังจากที่ลูกสาวหายไปตั้งแต่วันแต่งงาน ทุกคนก็เป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าหายไปไหน  หายไปเพราะสาเหตุอะไร หลังจากนั้นก็ตามหาลูกตลอดทั้งที่บ้านเพื่อน บ้านสามีเก่า และโรงพยาบาล เพราะคิดว่าลูกอาจจะประสบอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่เจอ  และที่ลูกสาวบอกว่าจะออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ก่อนจะหายตัวไปนั้น พอนำสมุดบัญชีธนาคารไปปรับดูพบว่ามีเงินเหลือในบัญชี 24 บาท และไม่ได้มีการเบิกถอนเงินในวันที่ 31 ธ.ค.เลย 

ประกอบกับมีเพื่อนคนนึงบอกว่าลูกสาวของตนเอง ไปยืมเงิน 30,000 บาทเพื่อจะมาใช้ในงานแต่ง ตนจึงเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกสาวหายตัวไปในวันแต่งงาน อาจจะเป็นเรื่องเงินคิดว่าลูกสาวน่าจะใช้เงินสินสอดหมดแต่ไม่กล้าบอกใคร พอถึงวันแต่งงานจึงตัดสินใจหนีไป  ซึ่งหากลูกสาวบอกความจริงตั้งแต่แรกว่าใช้เงินหมดแล้ว ตนก็ไม่ได้ว่าอะไรและจะช่วยหาทางให้  จึงอยากฝากถึงลูกสาวหากดูหรือฟังอยู่ก็อยากให้ลูกกลับมาพูดคุยกันและหาทางออกช่วยกัน ไม่มีใครโกรธหรือว่าอะไร แต่เป็นห่วงลูกมากกว่า

ส่วนที่มาพึ่งไสยศาสตร์ในการตามหาลูกสาว ก็เป็นอีกทางหนึ่งเพราะตนไม่รู้จะไปตามหาลูกสาวที่ไหน แต่พอหมอบอกว่าลูกปลอดภัยดี  และไม่เกิน 7 วันก็จะกลับมาบ้านเองก็รู้สึกคลายความกังวลและสบายใจขึ้น แต่ก็จะไม่หยุดตามหาลูกจนกว่าจะได้เจอตัวหรือลูกจะกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย  และถ้าหากลูกสาวกลับมาถึงบ้านแล้วอยากจะจัดงานแต่งอีกตนก็พร้อมจะจัดให้ โดยจะหาเงินมาจัดงานให้เอง

ด้านนางส่วย ผู้เป็นแม่ บอกว่า ที่ผ่านมาลูกสาวไม่เคยหายออกจากบ้านแบบนี้ ก็เป็นห่วงลูกมากอยากให้ลูกกลับบ้าน มีอะไรก็ให้มาพูดคุยกัน ซึ่งหลังจากมาดูหมอและทราบว่าลูกยังมีชีวิตปลอดภัยดี ก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ก็อยากฝากถึงลูกหากฟังอยู่ก็อยากให้กลับมา เพราะพ่อแม่เป็นห่วงมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook