ฆ่ายกครัว 4 ศพ! รปภ.ทุบหัวเมีย-ลูก ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติๆ

ฆ่ายกครัว 4 ศพ! รปภ.ทุบหัวเมีย-ลูก ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติๆ

ฆ่ายกครัว 4 ศพ! รปภ.ทุบหัวเมีย-ลูก ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รปภ. หนี้สินรุมเร้า ใช้ไม้ทุบหัวฆ่าเมียและลูกสาว 2 คน  ก่อนใช้เชือกผูกคอตาย เพื่อนบ้านเผยได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่คิดว่าเป็นหมาแมว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.อดุล ขาวขำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุฆ่ายกครัว 4 ศพ ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 1 ต.เชียงหวาง ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน มีชาวบ้านจำนวนมากมุงดู ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา

บริเวณใต้ต้นมะม่วงติดรั้วหน้าบ้าน พบศพ นายไทยสาน อายุ 50 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอกับกิ่งมะม่วง สภาพศพสวมเสื้อยืดคอโปโลลายขาวดำ กางเกงขาสั้น เมื่อเดินเข้าประตูหลังบ้าน ซึ่งเป็นห้องครัว พบหยดเลือดเป็นทาง

ในห้องโถงชั้นล่าง พบศพ นางวัชราภรณ์ อายุ 50 ปี ภรรยาของนายไทยสาน ,น.ส.คชาภรณ์ อายุ 23 ปี และ น.ส.ศศิธร อายุ 19 ปี ลูกสาวของทั้งคู่ นอนตายจมกองเลือด พบท่อนไม้ยาวประมาณ  50 ซม. วางอยู่ข้างศพ และถาดใส่ดอกไม้ธูปเทียนและขวดน้ำตั้งอยู่ปลายเท้าทั้ง 3 ศพ

จากกการชันสูตรทั้ง 3 ศพ พบถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณศีรษะทำให้มีบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกะโหลก และนิ้วมือข้างซ้ายศพ น.ส.คชาภรณ์ แตกและหัก แพทย์ระบุทั้งหมดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชม.

นอกจากนี้ ยังพบผ้าขาวม้าผูกกับขื่อหลังคาหน้าห้องน้ำ ชั้นวางรองเท้ากระจัดกระจาย และพบจดหมายเขียนด้วยลายมือนายไทยสาน เขียนใส่กระดาษปฏิทินขนาดใหญ่ วางอยู่หน้าห้องน้ำ ใจความสรุปว่า ขอโทษพี่น้องที่ทำให้ลำบาก และเป็นหนี้ทุกคนเพราะต้องการส่งลูกเรียน ซึ่งขณะนี้รถยนต์ติดไฟแนนซ์ เหลืออีกประมาณ 60,000 บาท ให้ญาติๆ ลองไปถามเผื่อไฟแนนซ์ให้ไถ่คืน

นายไทยสาน ระบุว่า สาเหตุที่ทำแบบนี้ เพราะหวังว่าลูกสาวคนโตเรียนจบจะมีงานทำมาส่งเสียน้อง แต่ปรากฏว่าลูกสาวหางานไม่ได้ ประกอบกับลูกสาวคนเล็กซึ่งกลับมาบ้านช่วงปีใหม่ กำลังจะกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แต่ตนไม่มีเงินให้ลูกกลับไปเรียน จึงตัดสินใจจบชีวิตครอบครัวแบบนี้

จากการสอบสวน นางบุญร่วม อายุ 62 ปี เพื่อนบ้าน ให้การว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลา 07.00 น. ตนได้นำวัวออกมาเลี้ยงหลังบ้านผู้ตาย แล้วได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน แล้วมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งคิดว่าเป็นผัวเมียทะเลาะกัน

ส่วนเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้คิดว่า เป็นเสียงหมาหรือแมวร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปดู เพราะเห็นประตูหน้าบ้านปิดเอาไว้ จนมาช่วงเช้าวันนี้ มีชาวบ้านมาเห็นศพนายไทยสาน  ซ่อนชัย ผูกคอเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน จึงไปบอกผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน หลังจากนั้นได้เปิดบ้านเข้าไปก็พบว่ามีศพในบ้านอีก

ส่วน นายบุญจันทร์ อายุ 76 ปี พ่อตา ให้การว่า นายไทยสาน ลูกเขยทำงานเป็น รปภ. ส่วนลูกสาวทำงานเป็นลูกจ้างประจำอยู่ที่ศูนย์หม่อนไหมเขต 4 อำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี ส่วนหลานสาว 2 คน  น.ส.คชาภรณ์ เพิ่งเรียนจบคณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น และ น.ส.ศศิธร กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน

ลูกเขยเป็นคนดี รักลูกรักเมียมาก ไม่เคยให้ลูกเมียลำบาก ส่งเสริมให้ลูกเรียนสูงๆ ซึ่งเคยยกมรดกเป็นที่นาให้ แต่ก็นำไปขายส่งลูกเรียน และกู้เงินในระบบประมาณ 2 ล้านบาท มาส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยทั้งสองคน

แต่ถ้าหากดื่มเหล้า นิสัยก็จะเปลี่ยนไป อาจจะวู่วามไม่ยอมใคร แต่เคยมาบ่นให้ฟังว่า มีหนี้สินมากเพราะส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย แต่ลูกจบมายังไม่มีงานทำ ไม่เคยคิดว่าลูกเขยจะคิดสั้นแบบนี้ ถ้ามาปรึกษาพ่อแม่และญาติพี่น้อง ก็จะช่วยเหลือกัน

ขณะที่ นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ เปิดเผยว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนพยาน สรุปได้ว่าเป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย โดยเมื่อเวลา 21.00 น เมื่อคืนนี้ นายไทยสวน หัวหน้าครอบครัว ไปซื้อเหล้าขาวและธูปเทียน ที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน มาดื่มย้อมใจ 2 ขวด

ก่อนใช้ท่อนไม้รองเก้าอี้โยก ทุบศีรษะเมียและลูกนอนจมกองเลือดตายในบ้าน แล้วจัดขันธ์ดอกไม้ธูปเทียนขอขมา แล้วเขียนจดหมายลาตาย ขณะที่นายไทยสวนจะใช้ผ้าขาวม้าผูกคอที่ขื่อหลังคาหน้าห้องน้ำ แต่พบว่าหลังคาต่ำผู้ตายรูปร่างสูง จึงย้ายไปผูกที่ต้นมะม่วงหน้าบ้าน

จนกระทั่งเช้าตรู่มีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็น จึงไปเรียกญาติผู้ตายมาดู ต่างแปลกใจว่าทำไมลูกเมียไม่ออกมาดู จึงได้เข้าไปเรียกในบ้าน ก็พบลูกเมียถูกทุบหัวนอนจมกองเลือดตายกองกันทั้ง 3 คน ซึ่งมาจากปัญหาหนี้สินที่ไปกู้ยืมมาส่งลูกเรียนตามที่เขียนระบายในจดหมาย ซึ่งญาติทั้งสองฝ่ายไม่ได้ติดใจจึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook