"ญี่ปุ่น" เพิ่มมาตรการเข้ม เข้า-ออกประเทศ หลัง "อดีตประธานนิสสัน" แอบหนีลงกล่อง

"ญี่ปุ่น" เพิ่มมาตรการเข้ม เข้า-ออกประเทศ หลัง "อดีตประธานนิสสัน" แอบหนีลงกล่อง

"ญี่ปุ่น" เพิ่มมาตรการเข้ม เข้า-ออกประเทศ หลัง "อดีตประธานนิสสัน" แอบหนีลงกล่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"มาซาโกะ โมริ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่น ออกมาตอบโต้การหลบหนีออกนอกประเทศของ "คาร์ลอส กอส์น" อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ นิสสัน มิตซูบิชิ และเรโนลต์ ว่าเป็นเรื่อง "ผิดกฎหมายอย่างซึ่งๆ หน้า" พร้อมให้สัญญาถึงกระบวนการตรวจสอบการหลบหนีครั้งนี้และย้ำว่าเจ้าหน้าที่ได้ออกประกาศเตือนการจับกุมคาร์ลอสแล้ว

โมริ กล่าวว่า ได้สั่งการให้องค์กรตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคนที่จะเดินทางออกนอกประเทศให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ฝั่งอัยการก็ออกแถลงการณ์ชี้แจงความบริสุทธิ์ของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่น และชี้ว่าการหลบหนีครั้งนี้ของนายคาร์ลอสเป็นการเพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่นและถือเป็นอาชญากรรม

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าทางการญี่ปุ่นจะใช้วิธีใดในการนำตัวคาร์ลอสกลับมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากญี่ปุ่นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนแค่กับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เท่านั้น อีกทั้งรัฐบาลเลบานอนเองก็ไม่เคยส่งตัวผู้ร้ายที่เป็นประชาชนของตัวเองกลับไปยังประเทศผู้ร้องเช่นเดียวกัน 

หลบหนี-ลงกล่อง-กลับเลบานอน 

หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า คาร์ลอส หนีออกจากญี่ปุ่นด้วยการเข้าไปซ่อนอยู่ในกล่องที่ปกติใช้เก็บอุปกรณ์เครื่องเสียง และเดินทางไปด้วยไพรเวทเจ็ท ออกจากสนามบินโอซากาในญี่ปุ่น ก่อนไปเปลี่ยนเครื่องที่เมืองอิสตัลบูล ประเทศตุรกี และบินต่อไปยัง เบลารุส

ขณะที่หนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่นซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบสวนการหลบหนีครั้งนี้ชี้ว่า กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของคาร์ลอสขณะออกจากบ้านพักเวลาในวันอาทิตย์ที่ 29 ธ.ค. 62 เวลา 14.30 น. โดยสวมใส่หมวกและหน้ากากอนามัย

อย่างไรก็ตาม ทางการยังไม่ทราบวิธีการที่คาร์ลอสใช้ในการเดินทางกว่า 480 ก.ม. จากโตเกียวไปยังโอซากา และผ่านกระบวนการตรวจสอบสัมภาระที่หลบซ่อนอยู่ ก่อนที่เครื่องจะบินในเวลา 23.10 น. ของวันเดียวกัน 

คาร์ลอสใช้เวลามากกว่า 12 ชั่วโมง ก่อนที่เครื่องบินจะลงจอดที่ท่าอากาศยานอิสตันบูลในช่วงเช้าของวันจันทร์ และมีรถยนต์มาจอดรอรับท่ามกลางฝนที่ตกหนักและไปส่งคาร์ลอสถึงประเทศเลบานอนในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook