พ่อ "น้องน้ำ" เหยื่อพระเมาแล้วขับ ยังทำใจไม่ได้ เผยอีก 2 เดือนลูกจะเรียนจบ
วันที่ 6 ม.ค.63 ที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 8 ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.วิกาลดา หรือ “น้องน้ำ” เรสะท้าน อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต จากการถูกรถยนต์กระบะ ที่ขับขี่มาโดย นายมานพ เนาโนนทอง อายุ 51 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุยังคงครองสมเพศเป็นพระลูกวัด วัดป่าศิริสมบัติ บ้านหัน ต.หนองกุงธนสาร อ.ภูเวียง พุ่งชนประสานงานเข้าอย่างจัง ขณะที่น้องน้ำ และเพื่อนชาย คือ นายธนากร พื้นแสน อายุ 19 ปี กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาบนถนนตามช่องทางปกติ จนทำให้ทั้งร่างของทั้งสองคนกระเด็นจากจุดชนไปไกลกว่า 20 เมตร เหตุเกิดบริเวณถนนใกล้กับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเรือ อ.ภูเวียง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศที่บ้านเป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย มีคณะครูและกลุ่มเพื่อนจากโรงเรียนเวียงนครวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่น้องน้ำเรียนอยู่ เดินทางมาเคารพศพและให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยความอาลัย ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไตรธรรม ผกก.สภ.ภูเวียง ได้เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัว พร้อมกับแจ้งความคืบหน้าทางคดีและรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสียหายจากการเสียชีวิตที่ทางครอบครัวจะได้รับ เป็นเงินจำนวน 300,000 บาท ซึ่งเป็นเงินประกันอุบัติเหตุของรถยนต์กระบะของผู้ต้องหาที่ทำไว้กับบริษัทประกัน
นายอุทิศ เรสะท้าน อายุ 44 ปี พ่อของน้องน้ำ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนเองทราบว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก็แทบไม่อยากเชื่อ เพราะตนเองกำลังรับจ้างตัดอ้อยอยู่และเตรียมที่จะเดินทางกลับมาบ้านในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ทำให้ตนเองต้องสูญเสียลูกสาวคนเล็กไป ทั้งๆ ที่ใกล้จะได้พบหน้ากันแล้ว และน้องน้ำก็จะจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในอีก 2 เดือนข้างหน้า
หลายสัปดาห์ก่อนก็ยังได้พูดคุยกับลูกสาวว่าเรียนจบ ม.6 แล้ว จะเรียนต่อหรือไม่ ลูกสาวก็บอกว่าอยากไปทำงานหาเงินกับพี่สาว จะได้มีเงินเลี้ยงดูตนเองและพ่อแม่ แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์สลดขึ้นก่อน ทำให้ตนเองและครอบครัวรับไม่ได้ ความรู้สึกที่มีอยู่ในใจไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะรู้สึกจุก ที่ต้องมาสูญเสียลูกสาวไปเพราะคนเมาแล้วขับ ยิ่งมาทราบว่าคนขับรถชนลูกสาวเป็นพระสงฆ์แล้วยิ่งทำใจไม่ได้
ขณะที่ น.ส.เกตุนริน อุนาวรรณ์ เพื่อนสนิทของน้องน้ำ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เพื่อนทุกคนต่างช็อกและสะเทือนใจกับการต้องสูญเสียเพื่อนรักไป เพราะในช่วงที่น้ำมีชีวิตอยู่ น้ำเป็นเพื่อนที่ดีมาก คอยช่วยเหลือเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยดีเสมอมา ครั้งสุดท้ายที่ได้เล่นด้วยกันคือวันปัจฉิมนิเทศ จำได้ว่าวันนั้นมีการร้องเพลงเกี่ยวกับเพื่อน โดยน้ำได้พูดกับตนเองว่า มาร้องเพลงด้วยกัน เพราะมันจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว ซึ่งตนก็ไม่คิดว่านั้นจะเป็นเหมือนคำล่ำลา กระทั้งมาเกิดอุบัติเหตุที่พรากชีวิตของน้ำไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากคนที่เมาแล้วขับ ซึ่งเป็นพระสงฆ์อีกด้วย ในฐานะเพื่อนตนเองได้จุดธูปบอกเพื่อนว่าให้ไปสู่สุคติ หากชาติหน้ามีจริงขอให้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีก ส่วนคนที่พรากชีวิตน้ำไปก็ขอให้ได้รับผลกรรมที่ได้ก่อเอาไว้