เปิดหมดใจหนุ่มจับชู้ หอบเงินแสนไปขอเมียตั้งแต่อายุ 18 ลั่นไม่มีวันกลับไปคืนดี

เปิดหมดใจหนุ่มจับชู้ หอบเงินแสนไปขอเมียตั้งแต่อายุ 18 ลั่นไม่มีวันกลับไปคืนดี

เปิดหมดใจหนุ่มจับชู้ หอบเงินแสนไปขอเมียตั้งแต่อายุ 18 ลั่นไม่มีวันกลับไปคืนดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(8 ม.ค. 63) เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬได้เดินทาง ไปพบกับ นายไพศาล หรือ ท็อป อายุ 28 ปี ชาวบ้านโนนสว่าง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อสอบถามความในใจและความคืบหน้ากรณีที่ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับพฤติกรรมเมียสาว ที่ได้นำชายชู้มาพลอดรักกันถึงในห้องนอนบ้านพักของตัวเองเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.62 ผ่านมา 

>> ผัวใจพระ! เมียพาชายชู้พลอดรักในห้องนอนนานกว่า 4 ชั่วโมง นั่งรอจนเสร็จกิจ

ผู้สื่อข่าวได้ย้อนกลับไปพบกับ นายไพศาล หนุ่มใจพระอีกครั้งหนึ่ง เพื่อถามถึงความในใจจากกรณีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเอง ว่าจะดำเนินชีวิตอนาคตต่อไปอย่างไร โดยนายไพศาลได้เล่าว่า หลังจากแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันกับน้องก้อย ภรรยาสาวเมื่อ 5 ปีผ่านมา ซึ่งขณะนั้นตนมีอายุ 23 ปี ส่วนภรรยามีอายุ 18 ปี โดยได้จ่ายเงินค่าสินสอดเป็นเงินประมาณ 100,000 บาท สำหรับคนบ้านนอกก็ถือว่ามากพอสมควรและมีพยานรักเป็นชายวัย 3 ขวบชื่อน้องก้าวหน้า จึงได้ชักชวนกันกับภรรยามาหางานทำเพื่อเก็บเงินไว้สร้างอนาคตและเลี้ยงลูกชายอันเป็นที่รักให้เติบโตอย่างมีอนาคต แต่ได้งานทำที่โรงงานเครื่องกรองน้ำ ในเขตอำเภอสามโคกจังหวัดปทุมธานี โดยตนเองเป็นพนักงานช่างเชื่อม ส่วนแฟนสาวทำหน้าที่ผู้ช่วยเสมียน

ขณะที่ทำงานมาได้ประมาณ 4 เดือนสังเกตเห็นภรรยาสาวมีพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม คือทำตัวสนิทสนมกับพนักงานขับรถส่งของในบริษัทเดียวกันเป็นกรณีพิเศษ จนจับพิรุธได้ว่ามีอะไรกันกับพนักงานขับรถคนนั้น แต่เพราะความรักจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไปว่าทำตัวไม่ดีไม่ถูกต้อง แต่ภรรยาก็อ้างว่าคุยกันเรื่องงานเท่านั้นไม่มีอะไรกัน หลังจากนั้นก็จับได้ว่ามีอะไรกันกับคนขับรถ ภรรยาก็ได้ขอโทษจะไม่ทำแบบนี้อีก ด้วยความรักและเห็นแก่ลูกจึงให้อภัย แต่ก็ยังไม่เลิกรา จนมาถึงวันเกิดเหตุวันที่ 27 ธันวาคมก่อนวันปีใหม่จึงได้ออกอุบายว่าจะกลับไปบ้านเยี่ยมลูกที่จังหวัดบึงกาฬ และได้ย้อนกลับมาบ้านพักในตอนเย็นวันเดียวกัน เพื่อจะจับผิดภรรยาให้ได้ว่า ยังนำชายชู้มานอนในห้องพักตามที่เพื่อนห้องข้างเคียงได้บอกเล่าให้ฟัง ซึ่งก็ปรากฏเป็นจริงตามที่เพื่อนบอก

ขณะที่ตนเองเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องนอนของเพื่อนซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องเช่าของตนเองนั้นได้พบเห็นชายชู้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแล้วเมียสาวตัวเองก็เปิดประตูออกมารับ แล้วก็พากันเข้าไปในห้องนอน ซึ่งขณะนั้นตัวเองก็จิตใจว้าวุ่นจะทำอย่างไรดี จะตัดสินใจพังประตูเข้าไปก็เกรงจะเกิดระงับอารมณ์ไม่อยู่หากเห็นภาพบาดตาบาดใจ จึงได้ใช้สติระงับอารมณ์ หากตัวเองผิดพลาดกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำอันตรายชายชู้และเมียสาว ตัวเองก็อาจจะติดคุก ภรรยาและชายชู้อาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนลูกชายจะอยู่กับใคร ทำให้ตนต้องคิดหนัก เพื่อนก็คอยปลอบใจไปด้วย

นายท็อปและลูกชาย

จังหวะนั้นเองขณะที่เมียสาวกับชายชู้จู๋จี๋กันอยู่ในห้องนอน เพื่อนก็ได้ช่วยวางแผนการณ์แกล้งทำเป็นไปเคาะประตูที่เมียรักกับชู้นอนอยู่ และเรียกให้เปิดประตูเพื่อจะขอพริกมาทำกับข้าว แต่มีเสียงภรรยาสาวตอบเล็ดลอดออกมาว่าพริกหมดไม่มีเหมือนกัน และก็ไม่ได้เปิดประตูออกมาพบ จนเวลาล่วงเลยไปจนถึง 21:00 น ทั้งคู่ได้เสร็จกามกิจด้วยกันจึงเปิดประตูออกมา ตนจึงเดินเข้าไปต่อว่าทั้งคู่ และบอกให้ภรรยาเปิดประตูไปดูหลักฐานจึงพบว่าผ้าปูที่นอนมีรอยเปรอะเปื้อนน้ำซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำรักของทั้งคู่นั่นเอง

จากนั้นจึงได้บอกกับภรรยาไปว่าตั้งแต่นี้ต่อไป ขอให้เราได้หย่าขาดเลิกราเป็นสามีภรรยาต่อกันเด็ดขาด ห้ามนำชายชู้มานอนในห้องนี้อีก หากจะมีอะไรกันก็ให้ไปทำที่อื่นและตนจะขอรับเลี้ยงดูแลลูกชายคือน้องก้าวหน้าไว้เอง จากนั้นได้เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดบึงกาฬ โดยได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้กับ ร.ต.อ.สนิท คำชมพู รอง สว.(สอบสวน) สภ.บึงโขงหลง ซึ่งมีใจความว่า ให้นางสาวก้อย ภรรยาไปอยู่กินกับชายชู้ ส่วนตนขอเลิกราหย่าขาดจากกัน และขอรับลูกชายเด็กชายก้าวหน้าไว้เลี้ยงดูเอง หากจะมาอ้างในสิทธิ์ของของแม่ต้องมาเจรจาตกลงกันอีกครั้งหนึ่ง

ถามว่าหากภรรยามาง้อขอคืนดีจะยินดีหรือไม่ นายไพศาล ตอบแบบมั่นใจโดยที่ไม่ต้องคิดว่าไม่เอาแล้ว ถึงจะมาขอคืนดีอย่างไรก็ไม่รับเป็นภรรยาอีกต่อไป เพราะทำกับตนมามากแล้ว เคยตักเตือนมาไม่รู้กี่ครั้งเคยจับได้มาครั้งหนึ่ง ก็ได้แต่กล่าวคำขอโทษจะไม่ทำอีกสุดท้ายก็ยังมีพฤติกรรมกระทำเหมือนเดิมคือคบชายชู้คนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่แต่งงานกันอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่พอไปทำงานแล้วจึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาจึงรับไม่ได้

ส่วนจะมาเยี่ยมลูกก็อนุญาตให้มาเยี่ยมได้ เมื่อวานนี้พ่อแม่ของภรรยาก็ได้มาพูดคุยด้วย และยินยอมยกลูกชายให้ตัวเองเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดู แต่ได้ขอร้องว่าไม่ต้องการจะให้ข่าวกับทางสื่อมวลชนอีกต่อไป ซึ่งตนก็ยอมตกลงตามที่ได้พูดคุยกันไว้ ส่วนงานที่เคยทำก็ตัดสินใจลาออกแน่นอนแล้ว อนาคตจะไปทำงานอะไรอีกนั้น ตอนนี้ตนขอพักผ่อนอยู่บ้านดูแลลูกชายไปก่อน ตอนนี้กำลังปลูกผักไว้ขายตลาดหาเงินเลี้ยงลูกชายไปก่อน

 >> ภาคต่อผัวซุ่มจับชู้ เมียจะกลับมาเอาลูกคืน โพสต์ตัดพ้อคิดถูกหรือผิดที่ไม่ฆ่าทิ้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook