ทนายษิทรา เข้าให้ปากคำ ป.ป.ช. ปมไบโอเมตริก-รถไฟฟ้าอัจฉริยะ คนมีอำนาจส่อทุจริต
(9 ธ.ค.63) เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการและป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเรื่องโครงการไบโอเมตริกกับรถตรวจการไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยร้องเรียนผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมทั้งมอบหลักฐานให้ตรวจสอบโครงการเพิ่มเติมและรายชื่อพยานจำนวน 13 ปาก
>> ทนายษิทรา จุดประเด็นร้อน ลอบยิง บิ๊กโจ๊ก เอี่ยวให้ปากคำคดีทุจริตรถไฟฟ้าอัจฉริยะ?
>> บิ๊กโจ๊ก ลั่นเหตุยิงรถมาจากยกเลิก "ระบบไบโอเมตริก" ชี้คนสั่งยิงน่าจะเป็นผู้มีอำนาจ
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพืรอเยาวชนและสังคม กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เรียกตนเข้ามาให้การในฐานะผู้ร้องเรียนเรื่องโครงการไบโอเมตริก ซึ่งสังคมให้ความสนใจในเรื่องนี้ว่ามีการทุจริตหรือเปล่า จึงอยากให้ทางปปชมีการไต่สวน หาข้อมูลในเรื่องนี้ว่าสิ่งที่ร้องเรียน มีมูลหรือเปล่าเพื่อให้สังคมไม่สับสนและทาง สนช. ที่มีการอึมครึม ต้นจึงอยากให้ทาง ป.ป.ช. ทำเรื่องนี้ให้ปรากฏ วันนี้ตนมาในฐานะผู้ร้องเรียน ต้องให้การทั้งหมด พร้อมทั้งนำเอกสารมายื่นต่อ ป.ป.ช. เพิ่มเติม
เอกสารที่นำมาเป็นหลักฐานเป็นรายงานที่ได้รับ มาเกี่ยวกับเรื่องการใช้งานของไบโอเมตริก ตามสถานที่ต่างๆ เช่นชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย ตาก มีรายงานว่ามีปัญหา ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ โดยเป็นมานานแล้ว จึงได้นำตรงจุดนี้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และประเด็นที่ไบโอเมตริก ใช้ตรวจอัตชีวะของคน คนเข้าออกประเทศทำผิดกฎหมายหรือไม่ การสแกนลายนิ้วมือม่านตา และลักษณะใบหน้าต่างๆ ยกตัวอย่าง ตม. สุวรรณภูมิตั้งแต่เปิดระบบนี้มา จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม 62 ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ใช้หนังสือเดินทางปลอมได้เลย นั่นคือประสิทธิภาพที่พูดถึงว่ามันไม่สามารถใช้งานได้จริง
เช่น ข่าวของเสี่ยท็อป นักธุรกิจกำมะลอ ซึ่งมีการแถลงข่าวว่าเป็นผลงานของเครื่องตัวนี้ จริงๆ แล้ว การที่เจอตัวเสี่ยท็อปเนื่องจากประเทศต้นทางคือฮ่องกง เป็นผู้ที่แจ้งเรื่องมาว่าพบตัวเสียท็อป กำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทย ทำให้สามารถจับตัวได้ และเดินผ่านเครื่องไบโอเมตริกภายหลัง ถ้าจากการตรวจสอบพบว่าเครื่องไบโอเมตริกของโครงการนี้ใช้ไม่ได้จะสร้างความเสียหายประมาณ 2,100 ล้านบาท ซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนี้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องมีการไต่สวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งโครงการนี้ตนร้อง นายตำรวจระดับนายพล 4 คนตามรายชื่อ
ส่วนเรื่องปัญหาของรถไฟฟ้าอัจฉริยะ พบว่าสเปคสูงเกิน อย่างที่ท่านพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ได้กล่าวว่า รถของหน่วยงานอื่นใช้รถธรรมดา เช่น โตโยต้า ราคาประมาณเกือบล้าน แต่บางหน่วยงานกลับใช้รถไฮเทค ขนาดนี้ราคาประมาณ 4 ล้าน มันเป็นรถระบบปลั๊กอิน สำหรับเชื่อมต่อไฟฟ้า ไม่ต้องใช้น้ำมัน แต่การใช้งานจริงๆ สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ เพราะตามต่างจังหวัดจะมีปลั๊กอินหรือเปล่าและระบบไวไฟ ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบไบโอเมตริกได้ ตามต่างจังหวัดจะหาไวไฟได้ลำบากมาก คนมองว่าราคา 4 ล้านมัน ไม่คุ้มค่า พี่จะนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้จ่าย และมีการสั่งใช้จำนวน 260 คันรวมราคาประเมินเกือบ 900 ล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่ามันไม่คุ้มค่า ตนในฐานะประชาชนธรรมดาต้องการให้ปปชช่วยตรวจสอบเงินภาษีของประชาชน
เบื้องต้น ทนายษิทรา ได้นำหลักฐานและรายชื่อพยานอีก 13 ปาก มามอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นระดับนายพลตำรวจ 2 นาย ระดับนายพันตำรวจ 10 นาย และชั้นประทวน 1 นาย ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ ส่วนพล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล จะเข้าให้ปากคำเมื่อไหร่ หลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. สอบปากคำคาดว่าน่าจะมีนัดหมายออกมาต่อไป