รองโฆษก ตร. ยอมรับ คลิปหลุดเสียง "จักรทิพย์-วิระชัย" จริง แค่คุยกันเรื่องงานปกติ

หลังจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งได้นำเสนอคลิปเสียงลับ ที่มีความเชื่อมโยงกับคดี คนร้ายยิงถล่มรถยนต์ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเป็นคลิปแอบอัดระหว่างสนทนาของผู้ชาย 2 คน เนื้อหาการสนทนาคล้ายกับพยายามหยุดใครบางคนไม่ให้เข้าไปยุ่งกับคดี

A : "ผมดูออกเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ดูไม่ออก แล้วไปบอกกันที่ 98 คอนโดเพลินจิตนั้น รู้หมดแต่ไม่เคยพูด ที่โทรมามีแค่นี้แหละทำอะไรก็ได้ผู้บังคับบัญชาเขาไว้ใจอย่าได้ระแวง เข้าใจปล่าว จะเอาอะไรก็แล้วแต่พี่โทรมาเตือนแค่นี้แหละ รอง ผบ.หลายคนเขารู้สึก ที่โทรมาหาพี่"
B : "ถ้าพี่จะให้ทำอย่างไรก็บอกแล้วกันครับ ที่ผมลงไปก็เพราะว่า ถ้าไม่มีทำอะไร เขาก็พูดว่าเราไม่ทำอะไร"
A : "น.1 เขาทำอยู่แล้ว นครบาลเขาทำอยู่แล้ว เขาทำตลอดโทรรายงานมา ระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏยังทำได้ อย่าไปคล้อยตาม เล่นตามรับลูกกันนะ ทรงอย่างนี้มันดูออกเข้าใจเปล่า"
B : "หมายความว่าผมไม่ต้องลงไปยุ่งเรื่องนี้ใช่ไหมครับพี่ครับ"
A : "ลงไปแล้วก็จบ สั่งการไปแล้วก็พอแล้วดูเขารายงานกลับขึ้นมาแค่นั้นเอง ไม่ต้องออกไปแถลงข่าวโน้นแถลงข่าวนี้ ไปโอ้โหเหมือนกับเตี๊ยมกันมา มันไม่มีอะไรเลย เขารายงานพี่มานี่ พี่ยังไม่เคยโทรบอกพี่ต้อยเลย นึกว่ามีวุฒิภาวะพอไม่ไปเอาเรื่องส่วนตัว 2 คนเข้ามาร่วมด้วย"

นอกจากนี้ยังได้มีการเอ่ยชื่อตำรวจระดับสูงอีกหลายคน พูดถึงเรื่องการหลอกใช้ พร้อมสำทับด้วยว่าข้อมูลที่ได้มาน่าเชื่อถือ

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงประเด็นที่สื่อได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับคลิปเสียงบทสนทนาของผู้ชาย 2 คน และมีการนำมาลงในโลกโซเชียล ว่าขอเรียนชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า ขณะที่มีการสนทนากันตามคลิปเสียงที่สื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอไปนั้น ตนได้นั่งอยู่ด้วยในขณะที่มีการสนทนาทางโทรศัพท์ โดยเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. จริง ซึ่งเป็นการกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ตามปกติ 

ซึ่งในคดีนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนตามปกติ และได้รายงานให้ท่าน ผบ.ตร. ทราบเป็นระยะๆ  ซึ่งท่านได้กำชับมาโดยตลอดในที่ประชุมบริหาร ตร. 

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเรื่องการอัดคลิปเสียง และมีการปล่อยเสียงสนทนานั้นลงในโลกโซเชียลมีเดีย ก็ไม่ทราบว่าใครอัดและอยากรู้เหมือนกันว่าใครทำ เพราะโดยมารยาทแล้วการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างบุคคลนั้น ไม่ควรอัดบทสนทนาเอาไว้ ยกเว้นคู่สนทนาจะมีเจตนารมณ์แอบแฝงในทางที่ไม่ดีกับอีกฝ่ายหนึ่ง