ชายญี่ปุ่นรับสารภาพฆ่าผู้ป่วยจิตเวช 19 คน อ้างไม่ใช่มนุษย์-นำพาโชคร้าย
โตเกียว 8 ม.ค. (ซินหัว) — ชายญี่ปุ่นที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารผู้ป่วยบกพร่องทางสติปัญญาภายในศูนย์ดูแลผู้ป่วยใกล้กรุงโตเกียว จำนวน 19 คน ยอมรับว่าลงมือจริง แต่ไม่สารภาพความผิดระหว่างการพิจารณาคดี ณ ศาลแขวงโยโกฮามา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 ม.ค.)
ซาโตชิ อุเอะมัตสึ (Satoshi Uematsu) วัย 29 ปี อดีตพนักงานศูนย์ดูแลผู้ป่วยซึคุอิ ยามายูริ เอ็น (Tsukui Yamayuri En) ในเมืองซากะมิฮาระ จังหวัดคานางาวะ ถูกกล่าวหาว่าแทงผู้พักอาศัยเสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บกว่า 20 คน ในเหตุการณ์อาละวาดบ้าคลั่ง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2016
อุเอะมัตสึให้การยอมรับต่อศาลและกล่าวขอโทษ แต่หลังจากที่เขา “ขอโทษกับทุกคนอย่างสุดซึ้ง” อุเอะมัตสึก็แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้นมาอย่างฉับพลันจนต้องถูกห้ามปราม ทำให้การพิจารณาคดีถูกเลื่อนออกไปชั่วคราวโดยหัวหน้าผู้พิพากษา
สำนักข่าวเคียวโด นิวส์ (Kyodo News) รายงานว่าการจู่โจมที่โหดร้ายของอุเอะมัตสึ มีเป้าหมายเป็นผู้ป่วยที่บกพร่องทางสติปัญญา โดยผู้ต้องหาบอกกับสื่อท้องถิ่นว่าเขายังเชื่อว่า “ผู้ป่วยเหล่านี้มีอาการรุนแรงจนสื่อสารไม่ได้และไม่ใช่คน” ทั้งยังเสริมว่าพวกเขานำพา “โชคร้าย” และเป็น “อันตราย”
รายงานระบุว่าจะมีการตัดสินคดีในวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งสภาพจิตใจของอุเอะมัตสึจะเป็นประเด็นหลักในการตัดสินโทษ โดยก่อนหน้านี้เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลงตัวเองและถูกพบว่าใช้สารเสพติด
สถานีโทรทัศน์สาธารณะเอ็นเอชเค (NHK) ของญี่ปุ่นอ้างอิงคณะอัยการ ซึ่งกล่าวเมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) ว่าอุเอะมัตสึต้องโทษอาญาได้ แม้ว่าเขาจะป่วยเป็นโรคจิตเนื่องจากการใช้ยา โดยเฉพาะกัญชา
ทนายฝ่ายจำเลยของอุเอะมัตสึยอมรับข้อเท็จจริงทั้งหมดและโต้แย้งแทนลูกความว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าเจ็บปวด แต่จำเลยกระทำความผิดหลังถูกรบกวนทางจิตใจและเป็น “บุคคลที่จิตไม่ปกติ” เนื่องจากการใช้ยา