สาวใหญ่ถูกฆ่าหมกไร่อ้อยนาน 2 เดือน ชาวบ้านสงสัยผัว-เมียหายไปนิ่งเฉยไม่ออกตามหา

พบศพหญิงถูกฆ่าหมกไร่อ้อย นาน 2 เดือน หลังชาวบ้านเผาไร่อ้อยเพื่อตัดไปขาย ก็ต้องผงะเมื่อพบซากศพ ชาวบ้านเชื่อฝีมือสามี ตำรวจตามล่าตัวถึงสุพรรณบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 ม.ค.) เมื่อเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ร้องขอกำลังอาสาสมัครเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท เข้าร่วมตรวจสอบ หลังพบชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกไฟเผาไหม้ภายในไร่อ้อยของ นางปริด อายุ 52 ปี อยู่ด้านท้ายของหมู่บ้านโคกเวง ม.10 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ขณะทำการเผาอ้อยเตรียมตัดส่งโรงงานน้ำตาลสุรินทร์

จากการสอบถาม นางปริด เจ้าของไร่อ้อย ทราบว่า ตนได้จ้างวาน นายประดุจ อายุ 65 ปี มารับจ้างตัดอ้อยและจุดไฟเผาอ้อยเพื่อจะเตรียมตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลสุรินทร์ ขณะเดินสำรวจหลังจากที่จุดไฟเผาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ไฟได้ดับและสงบลง จึงได้พากันเดินสำรวจตามตามไร่อ้อยและได้เหลือบไปเห็นจุดหนึ่ง ภายในไร่อ้อยที่ยังมีกลุ่มควันพวยพุ่งและยังมีไฟลุกอยู่ยังดับไม่สนิท จึงได้เรียกให้หลานชายเข้าไปดูพร้อมกันเพื่อจะได้ดับไฟดังกล่าว

แต่เมื่อไปดูก็ต้องผงะ เมื่อพบกับอวัยวะกระดูกชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกนำมาทิ้งในป่าอ้อย จนถูกไฟเผาไหม้ รวมทั้งเศษผ้า ถุงพลาสติกที่ถูกไฟไหม้ด้วย ตอนแรกตนคิดว่าเป็นซากกระดูกของสุนัขเลยไม่เอะใจอะไร แต่เมื่อเอาไฟฉายมาส่องดูให้ชัดๆ กลับพบว่าเป็นชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ ตนเองและหลานตกใจกลัวมากจึงพากันวิ่งหนีสุดชีวิตออกมาจากป่าอ้อย และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานอาจเป็นการฆาตกรรมเพื่ออำพรางซ่อนเร้นศพ แล้วนำมาทิ้งไว้หลายเดือนแล้ว คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็น นางสาวทวน อายุ 52 ปี ซึ่งมีสติไม่สมประกอบ และญาติได้แจ้งความคนหายไว้เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 ที่ผ่านมา และสามีคือ นายเสมอ อายุ 56 ปี ขณะนี้ได้เดินทางรับจ้างตัดอ้อยที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุ และจะได้นำศพส่งไปผ่าชันสูตรหา DNA เพื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร และหาข้อมูลของการถูกฆาตกรรมต่อไป

ล่าสุด เช้าวันนี้ (10 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านโคกเวงอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปดูที่เกิดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน พบร่องรอยถูกไฟไหม้ร่าง ในป่าอ้อย และยังพบกระดูก ชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีก เช่น กรามฟันและกระดูกข้อสันหลัง ซึ่งญาติเก็บไว้เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาให้ในภายหลัง

ชาวบ้านบอกว่ามีกระดูกหลายชิ้นถูกสุนัขคาบไปแทะกิน แต่ชาวบ้านไม่ได้สนใจว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือกระดูกสุนัข สุนัขคาบมาเหม็นก็ไล่สุนัขหนีไปไกลๆ จนกระทั่งมีการพบศพคนในป่าอ้อยถูกไฟเผาไหม จึงทำให้แน่ใจว่าเป็นกระดูกคน และพากันเดินหากระดูกส่วนต่างๆที่คาดว่าสุนัขจะคาบไปแทะกิน แต่ก็หาไม่พบ

ขณะที่ นายลอด เมินดี ผู้ใหญ่บ้านโคกเวง บอกว่า ศพคนตายน่าจะเป็น นางสาวทวน ชาญศรี อย่างแน่นอน เพราะได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.62 ซึ่งช่วงแรกชาวบ้านก็สงสัยว่าคงไปหาหมอที่โรงพยาบาล น่าจะเดินทางกลับมาได้แต่หลายวันก็ยังไม่กลับบ้าน ญาติก็พากันสงสัยว่าหายไปไหน

ตนเองไปถาม นายเสมอ สามีของนางสาวทวน ก็บอกว่าไม่รู้ภรรยาหาไปไหน และไม่ได้ช่วยออกตามหาภรรยาด้วย แต่ชาวบ้านและญาติๆ ได้ช่วยกันตามหาแต่ไม่พบ จนกระทั่งวันที่ 13 พ.ย.62 ได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.กาบเชิง และประสานหมอดูรางทรงมาทำพิธีก็บอกว่า ศพจมน้ำอยู่ทิศตะวันตกหมู่บ้าน ชาวบ้าน และนักประดาน้ำจากสุรินทร์ จากอำเภอปราสาท มาช่วยกันงมสามวันก็ไม่พบ

ส่วนสามีแทนที่จะช่วยหากลับนิ่งเฉย และยังท้าทายชาวบ้านว่าให้พากันหาไปเลย หาอย่างไรก็ไม่พบ ชาวบ้านยิ่งพากันสงสัยว่า นายเสมอน่าจะเป็นคนลงมือฆ่าภรรยาตัวเองก็เป็นได้ ชาวบ้านมาสอบถามนายเสมอกันแทบทุกวัน จนนายเสนอเครียดและหมดสติต้องพาไปหาหมอที่ รพ.กาบเชิง ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ปราสาท จนหายเป็นปกติ และกลับมาบ้าน

ส่วนตนเองได้แจ้งให้ชาวบ้านทุกคนทราบว่า หากใครพบหลุมในนา ไร่อ้อย มีลักษณะขุดฝังคล้ายหลุมศพ ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อตรวจสอบ จนกระทั่งมาพบศพถูกหมกในป่าอ้อยท้ายหมู่บ้าน เมื่อคืนที่ผ่านมา

สำหรับครอบครัวนี้มีพ่อ แม่ ลูกสามคน ชาย 1 หญิง 2 คน โตกันหมดแล้ว แต่งงานไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว โดยนายเสมอมักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับภรรยาอยู่เป็นประจำอีกด้วย หลังจากพบศพแล้ว จึงเชื่อว่านายเสมอเป็นคนลงมือฆ่าภรรยา และได้ออกจากบ้านไปรับจ้างตัดอ้อยที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

ด้าน พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กาบเชิง ได้เดินทางไปควบคุมตัวนายเสมอเพื่อมาสอบปากคำ ว่าเป็นผู้สังหารภรรยาตนเองหรือไม่ ต่อไป