ชัยวุฒิ ค้านปิดรร.ป้องกันไข้หวัด2009
ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ค้านปิดรร.ป้องกันแพร่ระบาดหวัดใหญ่ ชี้เป็นการแก้ไม่ตรงจุด ด้าน ชุมพล ชี้หวัด 2009 ไม่กระทบการท่องเที่ยว กทม.สั่งปิดรร.435แห่ง5วันสกัดหวัด09
(14ก.ค.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการปิดโรงเรียนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคหวัด 2009 ว่า ที่ประชุมครม.จะมีการพิจารณาเรื่องการมาตรการปิดโรงเรียนเพื่อป้องกันการ แพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ 2009 เพราะขณะนี้เกิดคำถามว่าเมื่อปิดโรงเรียนแล้วเด็กนักเรียนอยู่บ้านหรือไม่ หากเด็กไม่อยู่บ้านแต่กลับไปอยู่ในที่สาธารณะหรือที่รวมกลุ่มคนก็จะยิ่ง อันตรายมากขึ้นซึ่งเราต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะเราคิดว่าเด็กส่วนใหญ่ไม่อยู่บ้าน นอกจากนั้นโรงเรียนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ห่างไกลและไม่การแพร่ระบาดจะต้อง มีการปิดโรงเรียนด้วยหรือไม่ หรือต้องมีปิดโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาใดบ้าง เราต้องหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การป้องกันการแพร่ระบาดโรคได้ผลที่สุดและ เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
เมื่อถามว่าแสดงว่าทางกระทรวงศึกษาธิการ ไม่เห็นด้วยที่จะมีการปิดโรงเรียนทั้งหมดใช่หรือไม่ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ไม่ถึงกับไม่เห็นด้วย หากทางกระทรวงสาธารณะสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่าต้องปิดโรงเรียน ทางกระทรวงศึกษาธิการก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือแต่ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เมื่อปิดโรงเรียนแล้วจะเด็กไปไหน ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปคอยคัดกรองเด็กที่มีไข้ในโรงเรียนต่างๆ นั้นมีปัญหาคือเราสามารถคัดกรองเด็กได้แต่ไม่สามารถคัดกรองผู้ปกครองได้ สำหรับมาตรการปิดโรงเรียนกวดวิชานั้นในวันที่ 16 ก.ค.นี้จะมีการหารือกันว่ามาตรการนี้ได้ผลอย่างไร วันนี้การป้องกันการแพร่ระบาดไม่ใช่เน้นที่เด็กอย่างเดียวแล้วแต่ต้องดูแล บุคคลทั่วไปด้วย เพราะเริ่มมีการแพร่กระจายไปบุคคลทั่วไปแล้ว
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวกรณีมีการวิจารณ์ว่าเหตุที่การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดหวัดใหญ่ 2009 ไม่สำเร็จ เพราะใกล้เปลี่ยนตัวปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ ว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ทุกคนก็ทำงานเต็มที่ที่จะหามาตรการในการรักษาชีวิตของคนในประเทศ และ 2 เดือนกว่าที่โรคนี้เกิดขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้หยุดพักช่วงเสาร์-อาทิตย์เลย อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อขณะนี้ก็เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ที่รุนแรงก็คือความรู้สึกของประชาชน ที่คิดว่าไม่น่าจะมีจำนวนมากขนาดนี้ และหากประชาชนไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ก็จะไม่สามารถป้องกันอะไร ได้ โดยจะต้องหารือในที่ประชุม ครม.และคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์ การระบาดใหม่ของไข้หวัดใหญ่ ของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ด้วย เพื่อหามาตรการบังคับอื่นๆมาใช้นอกจากจะขอความร่วมมือว่าหากใครป่วยก็ให้ หยุดอยู่บ้านเท่านั้น เพราะแค่มาตรการนี้คงไม่เพียงพอในการป้องกันการแพร่ระบาด
เมื่อ ถามถึงข้อเสนอของ พล.ต.สนั่น ที่ให้โรงเรียนปิดเทอมก่อนถึงเวลาปิดเทอมจริง 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นายวิทยา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องฟังความเห็นของฝ่ายอื่นด้วย เพราะกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ทางวิชาการ ส่วนมาตรการทางสังคมคิดว่าคณะกรรมการฯของ พล.ต.สนั่น จะต้องระดมความเห็นจากส่วนอื่นด้วย เพื่อกำหนดทิศทางว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อทำให้อารมณ์ ความรู้สึกของคนในประเทศไม่ตื่นตระหนก และให้รู้สึกว่าได้รับการดูแลที่ดี
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการแพร่ระบาดของหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่อาจกระทบการท่องเที่ยว ว่า เวลานี้ประชาชนตื่นกลัวข่าวการระบาดโรคหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากกว่า แต่ความรุนแรงไม่น่าจะกระทบถึงการท่องเที่ยว สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศทุกวันก็เป็นไปตามเงื่อนไขขององค์กรระหว่าง ประเทศ ดังนั้นประชาชนไม่น่าต้องตกใจ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวยังไม่มีตัวชี้วัดว่ากระทบขนาดไหน ส่วนที่การท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่ได้เต็มที่ เพราะปัญหาทางการเมือง เช่น การปิดสนามบิน การล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา ปัญหาด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบทั่วโลก ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ เพราะแม้ไข้หวัด 2009 จะเกิดขึ้น แต่ไม่มีตัวชี้วัดว่าทำให้เศรษฐกิจตกต่ำมากขึ้น เพราะตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น ดังนั้นตนเห็นว่าการเมืองอย่าเพิ่มกระแสความรุนแรงขึ้นมาก็แล้วกัน
ผู้ สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ประเทศจีนประกาศห้ามคนไทยเข้าประเทศเพราะเป็นตัวแพร่ เชื่อไข้หวัด 2009 นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ใช่จีน เพราะตอนนี้จีนได้ปลดล็อคในระดับชาติไปพอสมควรแล้ว และระดับท้องถิ่นก็กำลังเจรจากันอยู่ โดยในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ตนจะไปหารือกับ รมว.การท่องเที่ยวของจีนและผู้ว่าการมณฑลเซี่ยงไฮ้ เพื่อเจรจาให้คนจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ส่วนการประกาศเตือนไม่ให้เดินทางเข้ามาในไทยนั้นก็น้อยลงแล้ว อย่างไรก็ตามตนเป็นห่วงปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจจะกระทบการท่องเที่ยว มากกว่าเรื่องการแพร่ระบาด เพราะยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังเดินทางเข้ามาเที่ยวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
กทม.สั่งปิดรร.435แห่ง5วันสกัดหวัด09
(14ก.ค.) ที่ศาลาว่าการ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ซึ่งได้หารือถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น โดยมีผู้ป่วยในประเทศแล้ว 3,308 ราย เสียชีวิต 15 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ก.ค.) ขณะที่มีผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว 1,859 รายและเสียชีวิตไปแล้วถึง 8 ราย ดังนั้น กทม.จะเดินหน้าในเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาเต็มที่ โดยจะจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างวัฒนธรรมให้ประชาชนหันมาใส่หน้ากาก อนามัยมากขึ้น
โดยเฉพาะเวลาเข้าไปสถานที่ที่มีประชาชนอยู่รวมกันจำนวนมาก เพราะถือเป็นมาตรการที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้จะให้ผู้อำนวยการเขตใช้อำนาจนายอำเภอ ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ป้องกันตนเองเวลาเข้าไปสถานที่แออัด นอกจากนี้จะได้ขอความร่วมมือวิทยุชุมชนช่วยออกเสียงตามสาย รวมทั้งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกระบบ ให้ช่วยส่งเอสเอ็มเอสให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย พร้อมทั้งเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพของตนเองด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กทม.ได้จัดซื้อหน้ากากอนามัยเพิ่มอีก 2 ล้านชิ้น เพื่อแจกจ่ายตามสถานที่ที่มีประชาชนอยู่จำนวนมาก เช่น สถานีบีทีเอส ป้ายรถเมล์ เป็นต้น พร้อมทั้งแจกให้ส.ส.และ ส.ก.ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกสังกัดพรรคการเมืองรวม 93 คนๆ ละ 1 หมื่นชิ้น เพื่อนำไปแจกให้กับประชาชนในพื้นที่ของตนเองด้วย นอกจากนี้ กทม.ได้สั่งซื้อแถบปรอทวัดไข้ 22,000 ชิ้นเพื่อแจกจ่ายไปในโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้ง 435 โรง โดยให้ครูประจำชั้นนำไปใช้วัดอุณหภูมิของเด็กนักเรียนก่อนเข้าชั้นเรียน หากพบว่าเด็กคนใดมีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ก็จะให้เด็กกลับบ้านเพื่อรักษาตัวทันที พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ทุกโรงเรียนสังกัดงดใช้เครื่องปรับอากาศจนกว่า สถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมกันนี้ในวันที่ 10-11 ส.ค. กทม.เตรียมปิดโรงเรียนทุกแห่งในสังกัดเพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่ ทั้งนี้กทม.จะติดตามสถานการณ์โรคดังกล่าวจากสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างใกล้ชิด
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้โรงเรียนสังกัดของ กทม. 435 แห่ง ศูนย์เลี้ยงเด็ก 200 แห่ง และศูนย์ฝึกอาชีพ 13 แห่ง ปิดทำการระหว่างวันที่ 15-19 ก.ค. โดยจะเปิดทำการในวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. หลังจากวันนี้มียอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 28 ราย และระหว่างนี้ กทม.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดโรงเรียนด้วย
นาย พงษ์พจน์ พิมพ์สมฤดี ผอ.สำนักงานตลาดกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า สำนักงานตลาดฯเตรียมล้างทำความสะอาดตลาดในสังกัด 9 ตลาด ประกอบด้วย ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาดเทวราช ตลาดอรุณอัมรินทร์ ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก ตลาดธนบุรี(สนามหลวง2) ตลาดหนองจอก ตลาดบางกะปิ ตลาดสิงหา และตลาดรัชดาฯ โดยจะล้างตลาดให้แล้วเสร็จทุกตลาดภายใน 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยจะนำร่องที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 แห่งแรกเวลา 14.00 น. นอกจากนี้ทางสำนักงานตลาดฯ ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน โดยจะแจกเจลล้างมือกำจัดเชื้อโรคเพื่อแจกให้กับผู้ค้าและประชาชนที่มาเลือก ซื้อสินค้าภายในตลาดฟรีด้วย