แม่แสนช้ำใจ ลูกชายบุกปล้ำสาว 18 ถึงในบ้าน อยากให้ติดคุกเผื่อจะกลับตัว

จากกรณีที่ช่วงเย็นวันที่ 21 ม.ค.63 ร.ต.อ.กันตฺกวี มีธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุบุกรุกหมายจะกระทำอนาจาร ที่ ต.นาแก้ว  อ.เกาะคา จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุพบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาวอำเภอเกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งยังอยู่ในอาการตัวสั่นและผวาเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมให้การกับตำรวจว่าก่อนเกิดเหตุตนเอง อยู่ในบ้านเพียงลำพัง ขณะที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ภายในห้องโถง

จู่ๆ นายพัฒนพงษ์ ก็เข้ามาในบ้านตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้คว้ามีดคัตเตอร์ซึ่งอยู่ที่อยู่บนโต๊ะตอมมาถือไว้เพื่อป้องกันตัว เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้ก่อเหตุกระชากตัว ลงมาจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ไปไกลร่วม 5 เมตร จากนั้นก็พยายามขึ้นคร่อม ตนเองจึงพยามต่อสู้ขัดขืนและใช้มีดคัตเตอร์แทงเข้าไปที่ท้ายทอย 1 ครั้ง จนมีดคัดเตอร์หักก่อนที่ผู้ก่อเหตจะหนีออกไปจากบ้าน จึงแจ้งญาติและตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

กระทั่งต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกันตำรวจสามารถควบคุมตัว นายพัฒนพงษ์ อายุ 33 ปี ได้ในขณะเดินอยู่ที่บนถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุในสภาพคล้ายกับคนเมา โดยที่ บริเวณท้ายทอยมีบาดแผลเนื่องจากถูกอาวุธมีดแทงมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย  และจากการสอบถามเบื้องต้นยังให้การวกไปวนมาและบอกว่ามาดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ใกล้เคียง และก็ไม่ได้เข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวและก็ไม่รู้ว่าถูกใครแทงมา แต่ จนท.ไม่ปักใจเชื่อจึงความคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เกาะคาเบื้องต้นจากการตรวจปัสสาสะ(ไม่พบว่าเสพสารเสพติด)

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. (22 ม.ค.63) ผุ้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งพบนางอรพิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ยายของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) สาววัย 18 ปี ผู้เสียหายพร้อมนำผู้สื่อข่าวชี้จุดเกิดเหตและเปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุหลานสาวของตนเองกำลังนั่งทำรายงานอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ภายในห้องโถง จู่ๆ นายพัฒนพงษ์ ก็เข้ามาในบ้านหลานสาวเห็นท่าไม่ดีจึงได้คว้ามีดคัตเตอร์ซึ่งอยู่ที่อยู่บนโต๊ะตอมมาถือไว้เพื่อป้องกันตัว และพยายามบอกให้ผู้ก่อเหตุออกไป แต่นายพัฒนพงษ์ ทำทีมาถามว่ารู้จักคนนั้นคนนี้ไหม น้องสาวบอกว่าไม่รู้จักและพยายามเข้ามาประชิดตัวหลานสาวพยามหนีแต่ก็ไม่ทัน ผู้ก่อเหตุได้กระชากตัวหลานสาว จากนั้นก็ขึ้นคร่อมและพยามถอดเสื้อผ้า หลานสาวจึงพยามต่อสู้ขัดขืนและร้องขอความช่วยเหลือก่อนที่ใช้มีดคัตเตอร์แทงเข้าไปที่ท้ายทอยผู้ก่อเหตุไป 1 ครั้ง จนมีดคัตเตอร์หัก ผู้ก่อเหตุเห็นท่าไม่ดีจึงหนีออกไปจากบ้าน จึงแจ้งตำรวจดังกล่าวเหตุที่หลานสาวรอดมาได้เพราะความมีสติและอยากฝากเติอนเป็นอุทาหรณ์ว่าหากอยู่บ้านคนเดียวควรล็อคประตูบ้านเพื่อความปลอดภัย และที่เสียใจที่สุดคือผู้ก่อเหตุเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน

ด้าน นางพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี แม่ของนายพัฒนพงษ์ ผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าลูกชายจะมาก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนี้ก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เผื่อว่าลูกชายจะเข็ดหลาบและกลับตัวเป็นคนดีได้บ้าง ทั้งนี้ยอมรับว่าลูกชายมีอาการเพี้ยนๆ ไปบ้างหากดื่มสุรา ชอบลักเล็กขโมยน้อย และหลายเดือนมานี้ลูกเสียคนอย่างหนักเพราะไปคบกับเพื่อนขี้เมาประมาณ3-4 คนเมื่อขโมยเงินได้แล้วก็จะเอาไปดื่มสุรา แต่หัวอกความเป็นแม่ยังไงก็ห่วงลูก หลังจากนี้ก็จะไปขอโทษครอบครัวผู้เสียหายอีกครั้ง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงสายวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา จะนำตัวนาย พัฒนพงษ์ มาสอบสวนอีกครั้งและจะเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาพยามข่มขืน และบุกรุก แต่นายพัฒนพงษ์ยังให้การภาคเสธ ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน