ยธ.จี้DSIล่าผู้ต้องหาคดี สนธิ ส่งตำรวจ

ยธ.จี้DSIล่าผู้ต้องหาคดี สนธิ ส่งตำรวจ

ยธ.จี้DSIล่าผู้ต้องหาคดี สนธิ ส่งตำรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พีระพันธุ์ จี้ผู้บังคับบัญชาดีเอสไอแสดงความบริสุทธิ์ใจช่วยตามตัวผู้ต้องหาคดี สนธิ ส่งตำรวจ ด้านพนักงานสอบสวนประสานญาติ ส.ต.ท.วีระวุฒิ ให้นำผู้ต้องหามอบตัวสู้คดี ขณะที่พ่อสาวเจ้าของโตโยต้าวีโก้ ปฎิเสธครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

(15ก.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวกรณีผู้ต้องหาคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯมาช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ได้สั่งให้ดีเอสไอตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวเข้ามาช่วยราชการหรือเกี่ยวข้อง กับดีเอสไอหรือไม่ และให้ประสานกับตำรวจชุดสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนว่าผู้ต้องหาดังกล่าว ทำงานอยู่ในส่วนใดแน่ ตามกฎหมายขณะนี้ผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้กระทำผิด อย่างก็ตามตนจะใช้โอกาสนี้เข้าปรับปรุงระเบียบว่าด้วยการขอตัวช่วยราชการของ บุคลากรกระทรวงยุติธรรม ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานมีปัญหาในการยืมตัวบุคลากรจากหน่วยงานอื่นมาแล้วไม่ ได้ทำงานตามวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ถ้าผู้ต้องหาตามหมายจับรายนี้มาช่วยราชการหรือปฏิบัติงานในดีเอสไอ จริง ตามระเบียบราชการหากหายตัวไปกว่า 15 วัน โดยไม่แจ้งถือว่ามีความผิดทางวินัย ต้องพ้นจากราชการ

ถ้าการยืม ตัวช่วยงานคดีต่างๆมาด้วยขั้นตอนที่ไม่ถูกต้อง ผู้บังคับบัญชาที่ยืมตัวมาจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย กรณีนี้หากมาช่วยงานในส่วนใดของดีเอสไอ ผู้บังคับบัญชาต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ส่ง พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน อย่างไรก็ตาม ตนจะเร่งตรวจสอบรายละเอียดการปฏิบัติงานของผู้ต้องหารายนี้ในดีเอสไอ รวมทั้งตรวจสอบว่าได้นำอุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ของดีเอสไอไปใช้หรือไม่

พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. กล่าวถึงความคืบหน้าการออกหมายจับ ส.ต.ท.วีระวุฒิ มุ่งสันติ สังกัดศูนย์ข่าว บช.ปส. ที่เกี่ยวพันธ์การลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ว่า หลังทราบว่ามีการออกมาหยจับ ส.ต.ท. วีระวุฒิ ก็พยายามประสานงานไปต้นสังกัดที่ส.ต.ท.วีระวุฒิ สังกัดอยู่ พร้อมติดต่อโทรศัพท์มือถือของส.ต.ท.วีระวุฒิ ตั้งแต่วานนี้(14ก.ค.) แต่ไม่ยอมรับสาย เมื่อติตต่อใหม่ก็ปิดเครื่อง ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากประสานไปยังหน่วยงานดีเอสไอ ทราบว่าส.ต.ท.วีระวุฒิ ขาดราชการตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งต้องพิจารณาว่าขาดราชการแล้วกี่วัน หากเกิน 15 วันถือผิดวินัยร้ายแรง คงต้องเสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อน

สำหรับ ประวัติของ ส.ต.ท.วีระวุฒิ เข้ารับราชการเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2545 โดยประจำการที่บช.ปส. ทำหน้าที่วิเคราะห์ข่าว ตรวจสอบเอกสารและประสานงานสายข่าวตามจุดต่างๆ ไม่เคยมีประวัติด่างพล้อย หลังจากนี้จะให้ต้นสังกัด ประสานญาติเพื่อแจ้งให้ ส.ต.ท.วีระวุฒิ เข้ามอบตัวสู้คดีตามหมายจับ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานงานว่าส.ต.ท. วีระวุฒิจะเข้ามอบตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทั่วไปของค่ายทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี โดยเฉพาะค่ายเอราวัณ ต้นสัง กัดของ จ.ส.อ.ปัญญา ที่ถูกออกหมายจับคดียิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯวันนี้มีการเข้มงวดการเข้าออกหน่วยอย่างมาก แต่กำลังพลส่วนใหญ่ของหน่วยนี้ถูกส่งตัวไปปฎิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อประสานงานกับหน่วยทหาร ต้นสังกัดของ จ.ส.อ.ปัญญาตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปภายในหน่วย หรือให้ขอมูลใดๆทั้งสิ้น โดยบอกว่าทางกองทัพจะเป็นผู้ให้ข้อมูลทั้งหมดในเรื่องคดี

ส่วนนาง สาวรัศมี ทับโชติ ลูกจ้างพับร่มค่ายเอราวัณ เข้าไปมีชื่อเป็นเจ้าของรถโตโยต้าคันก่อเหตุนั้น นายสมนึก ทับโชติ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 304 ม.5 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี ซึ่งเป็นพ่อของนางสาวรัศมี กล่าวว่า สำหรับรถคันดังกล่าวตนซื้อมาใช้ภายในครอบครัวนาน กว่า 5 ปีแล้ว

" รถคันนี้มีผมกับลูกสาวเท่านั้นที่นำไปใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน แต่ลูกสาวจะใช้มากที่สุด เพราะว่ามักนำรถคันนี้เข้าไปทำงานในหน่วยทหารเป็นประจำเกือบทุกวัน ผมนานนานจะได้ใช้"

นายสมนึก บอกต่อว่าไม่เข้าใจว่ารถของตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียิงนายสนธิได้อย่างไร เนื่องจากวันเกิดเหตุรถก็อยู่ที่บ้านลพบุรีและเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ แต่ในเรื่องส่วนตัวว่าลูกสาวจะนำไปให้ใครใช้ต่อหรือนำไปทำอะไร เพื่ออะไรนั้นตนไม่ทราบจริงๆ

ส่วนกรณีที่ว่าลูกสาวนของตนมีความ สัมพันธ์กับจ.ส.อ.ปัญญาหรือรู้จักกันหรือไม่นั้นตนไม่รู้ เพระเรื่องส่วนตัวของลูกตนมักจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ลูกสาวของตนและผู้ที่ถูกออกหมายจับทำงานอยู่ที่เดียวกันมานานกว่า 10ปีแล้ว ส่วนลูกสาวนจะรู้จักจ.ส.อ.ปัญญามากน้อยแค่ไหนตนบอกไม่ได้ ต้องรอสอบถามลูกสาวก่อน เพราะในช่วงหลังลูกสาว จะใช้รถคันนี้มากกว่าคนอื่นๆอยู่ประจำ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook