"ทนายรณณรงค์" ชำแหละคำให้การ "ผอ.กอล์ฟ" ไม่ตั้งใจยิง "น้องไทตัล" ถือว่าอ้างไม่ขึ้น
จากกรณีที่ วานนี้ (23 ม.ค.63) เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวการจับกุม นายประสิทธิชัย หรือ ผอ.กอล์ฟ โจรปล้นทอง ลพบุรี โดยในการแถลงได้มีการต่อสายให้นายประสิทธิชัย ได้ตอบคำถามต่อสื่อมวลชนในหลายประเด็น โดยเฉพาะมูลเหตุในการลงมือปล้น รวมทั้งการยิงผู้บริสุทธิ์จนเสียชีวิตถึง 3 ราย โดย 1 ใน 3 เป็นเด็ก
หลังการแถลงเสร็จสิ้น ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทนายคู่ใจ ของ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีคำให้การของ ผอ.กอล์ฟ โดยวิเคราะห์ในทางกฎหมาย ระบุว่า
"จากประเด็นยิงน้องไตตั้น ผอ.กอล์ฟให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าไม่ได้ตั้งใจยิงน้องไตตั้น ตนเองยิง รปภ.แล้วกระสุนแฉลบไปโดนน้องไตตั้นจนเสียชีวิตนั้น แบบนี้ในทางกฎหมายจะอ้างได้หรือไม่
ตอบ !! ในทางกฎหมายกรณีแบบนี้อ้างไม่ขึ้นนะครับ แต่ผมแยกเป็น 3 กรณีละกันนะครับ
1.-กรณีไม่ได้ตั้งใจยิงใครเลย ยกปืนยิงเข้าไปในห้างที่มีคนอยู่ แล้วกระสุนไปถูกน้องไตตั้นเสียชีวิต กรณีนี้จะอ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าไม่ได้ ซึ่งการยิงปืนเข้าไปในฝูงชนโดยมิได้คำนึงว่ากระสุนปืนจะไปถูกใครเข้า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตน ถือว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา (เล็งเห็นผล) (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2514)
2.-กรณีตั้งใจยิง รปภ. แต่กระสุนไปถูกน้องไตตั้นถึงแก่ความตาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเจตนายิงน้องไตตั้นก็ตาม ในทางกฎหมายถือว่า”เป็นการกระทำโดยพลาด” อันเป็นการเจตนาที่จะกระทำต่อบุคคลหนึ่งแต่ผลไปเกิดกับอีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น (ป.อ มาตรา 60) ซึ่งจะอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจมาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2527)
3.-กรณีที่ไม่ได้ยิงเข้าไปในฝูงชน ไม่ได้ตั้งใจยิงคน และมีบางข่าวบอกว่าเจตนาที่จะยิงพื้น แล้วกระสุนแฉลบจากพื้นไปถูกน้องไตตั้นถึงแก่ความตาย กรณีนี้ก็อ้างเรื่องไม่เจตนามาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากการใช้อาวุธปืนซึ่งมีสภาพร้ายแรงยิงไปที่พื้น ถึงแม้จะอ้างว่าไม่ตั้งใจยิงน้องไตตั้นก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อกระสุนปืนกระทบกับพื้นแล้วจะหักเหไปในทิศทางใดอีกทั้งน้องไตตั้ลนั้นยังเด็กความสูงนั้นไม่น่าเกิน 100 ซม. ซึ่งเป็นระยะที่ไม่ห่างจากพื้นมากนัก อันเป็นวิถีที่กระสุนจะทำมุมแฉลบไปโดนได้ ซึ่งผอ.กอล์ฟ ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจแฉลบไปถูกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ จะอ้างว่าไม่เจตนาคงฟังไม่ขึ้น (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5505/2559)
ทั้งสามกรณีข้างต้นจะเห็นว่ามีทั้งเรื่องเจตนา และเรื่องกระทำการโดยพลาด ซึ่งเรื่องเจตนามีบัญญัติไว้ในมาตรา 59 วรรค 2 ซึ่งแยกเป็น 2 ประเภท
- เจตนาประสงค์ต่อผล
- เจตนาเล็งเห็นผล
ดังได้อธิบายและยกตัวอย่างมาข้างต้น ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องกระทำการโดยพลาดเป็นกฎหมายปิดปากในกรณีที่ตั้งใจยิงอีกคนแต่ผลไปเกิดกับอีกคน จะยกเรื่องไม่เจตนามาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้
อย่าเพิ่งไปเดือดดาลคำสัมภาษณ์ของ ผอ.กอล์ฟละกันที่บอกไม่ตั้งใจยิง แล้วกลัวว่ากฎหมายจะลงโทษไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่าไม่ตั้งใจยิงน้องไตตั้นจริงๆ แต่คนอื่นๆ ตั้งใจยิง เจตนาฆ่าแน่นอน ( มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี )
อย่าลืมว่ายังมีประเด็นชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอีกนะครับ ตามมาตรา 339 วรรคท้าย ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งดราม่ากันไปเลยชาวโซเชียล"