ประมูลอู่ตะเภา ต้องไม่ซ้ำรอย JAS ทิ้ง 4G
![ประมูลอู่ตะเภา ต้องไม่ซ้ำรอย JAS ทิ้ง 4G](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1603/8017951/s__70631435.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ว่ากันว่า.. “ผู้ไม่รู้จักเรียนรู้จากอดีต จะไม่เข้าใจในปัจจุบัน และมองไม่เห็นอนาคต”
การประมูลโครงการสนามบินอู่ตะเภา สามารถเรียนรู้อะไรจากการประมูล 4G ในอดีต หากย้อนเวลากลับไปช่วงเดือนมีนาคม 2559 กับการประมูล 4G ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ที่เบียดชนะบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่จนเอาชนะการประมูลคลื่น 4G ความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ไปได้ด้วยเม็ดเงินที่สูงกว่า 75,654 ล้านบาท
หลังจากประมูลดุเดือด และได้ผู้ชนะการประมูลคลื่น 4G สูงลิ่ว เมื่อกรรมการพิจารณาเอาราคาสูงเป็นสำคัญ เมื่อสิ้นเสียงระฆัง ดูเหมือนรัฐจะได้ประโยชน์สูงสุด แต่พอถึงเวลาจ่ายเงิน หลังจากได้รอจนหมดเวลา สุดท้าย “แจส โมบาย” ก็เบี้ยวไม่โผล่มาจ่ายค่าประมูลคลื่น 4G งวดแรก 8 พันกว่าล้านบาท
พร้อมแบงก์การันตีมาวางค้ำประกัน ส่งผลให้โดนยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน 644 ล้านบาท คำถามที่สำคัญคือ จ่ายเพียง 644 ล้านบาท และ ค่าเสียหายที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการประมูล 4G วงเงิน 160 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ต้องเดินหน้าจ่ายคลื่น 75,654 ล้านบาท
เรื่องนี้ คนไทยได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการประมูลที่ราคาสูงเกินความเป็นจริง ในต่างประเทศ เมื่อประมูลราคาสูงเกินความเป็นจริง เช่นที่ประเทศเช็ก สโลวาเกีย ประมูลสูงเกินไป ก็สั่งให้หยุดประมูล เพราะประเมิน IRR สูงเกินความเป็นจริง และไม่น่าจะหาแหล่งเงินกู้ได้ เป็นต้น
ซึ่งในขณะนั้น กรรมการจัดการประมูลได้กล่าวว่า ในแง่ของความเชื่อมั่นต่อการประมูลครั้งต่อไป ไม่น่าเกิดเหตุซ้ำ และกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะทำให้ผู้ที่จะสนใจเตรียมความพร้อมให้รัดกุมมากขึ้น และคำนึงถึงความเป็นไปได้ทางการเงินมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเสนอราคาเพื่อให้ชนะการประมูลไปก่อนแล้วเกิดปัญหาทีหลัง
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตัวเลขของการประมูลอู่ตะเภาที่แต่ละรายเสนอกันมา ปรากฏว่ากลุ่มบีบีเอส เป็นผู้เสนอผลตอบแทนที่สูงสุด ประมาณ 3 แสนล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เสนอกว่า 1.02 แสนล้านบาท และสุดท้ายคือกลุ่มแกรนด์คอนซอร์เตียมที่ตามมาเป็นอันดับสามที่ 1.01 แสนล้านบาท
ซึ่งคณะกรรมการก็ย้ำหลายครั้งว่า ต้องเปิดเผยตัวเลขหลังจากครม. อนุมัติ เพื่อให้เป็นไปตาม RFP แต่ก็มีตัวเลขเล็ดลอดออกมาให้นักวิเคราะห์ได้พิจารณาความเป็นไปได้ทางการเงิน ไฟแนนเชียลโมเดล ก่อนการตัดสิน เหตุที่กองทัพเรือยังไม่ประกาศผู้ชนะ เพราะการประมูลครั้งนี้ ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดยัง “ไม่ใช่ผู้ชนะ”
ดังนั้น การประมูลนี้จึงปล่อยผ่านไม่ได้ เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยการประมูล 4G และต้องตอบข้อสงสัยสังคมได้ว่า ทำไมผู้ประมูลเสนอผลตอบแทนให้ภาครัฐแตกต่างกันมากมาย รายหนึ่งให้กว่า 3 แสนล้านบาท อีก 2 รายให้กว่า 1 แสนล้านบาท และคำถามถามที่ว่า ข้อเสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงเช่นนั้น จะเกิดขึ้นจริง “ได้หรือไม่
สุดท้าย หากกรรมการไม่มั่นใจตัวเลขโมเดลทางการเงิน ควรให้ธนาคารมารับรองและค้ำประกันราคากับความเป็นไปได้โครงหารด้วยหรือไม่?
Look at what happened in the Past. Learn something valuable from it. Do things differently in the present."
“จงย้อนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เรียนรู้สิ่งที่มีคุณค่าจากมัน
แล้วทำในสิ่งที่แตกต่างให้เกิดขึ้นในปัจจุบัน”
- Spencer Johnson -