ว่าที่เจ้าบ่าว "โก๊ะตี๋ อารามบอย" เนรมิตงานแต่งในฝัน ธันวาคมนี้ กุมมือ "น้องกวาง" เริ่มชีวิตคู่
ไม่ต้องเสียเวลาลุ้นกันอีกแล้ว เพราะล่าสุดศิลปินตลกอารมณ์ดี โก๊ะตี๋ อารามบอย ได้ออกมาคอนเฟิร์มเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ช่วงประมาณเดือนธันวาคม ปี 2563 นี้ เจ้าตัวจะกุมมือหวานใจนอกวงการ น้องกวาง ลั่นระฆังวิวาห์อย่างแน่นอน
โดย โก๊ะตี๋ อารามบอย ได้เปิดใจกับเราว่า ตอนนี้เจ้าตัวและแฟนสาวได้มีการวางแผนไว้คร่าวๆ แล้วสำหรับงานวิวาห์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งทั้งคู่ตั้งใจไว้ว่าจะจัดงานในสไตล์เรียบง่าย บรรยากาศกลางสวน เชิญแขกผู้ใหญ่และเพื่อนพ้องคนสนิทมาแสดงความยินดีร่วมกัน
ส่วนแพลนมีทายาทนั้น โก๊ะตี๋ อารามบอย ยอมรับว่า จริงๆ ตนกับ น้องกวาง ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้มานานแล้วเพราะไม่อยากให้เกิดความกดดันในชีวิต ตอนนี้จึงทำได้แค่ดูแลสุขภาพร่างกายให้สามารถผลิตฮอร์โมนได้ตามปกติก็พอ ที่เหลือก็รอแค่บุญพาวาสนาส่ง หากมีก็ยินดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
"ปีนี้จะแต่งงานแล้วครับ เดี๋ยวก็คงต้องให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้มานั่งพูดคุยกัน (ยิ้ม) ซึ่งเรื่องของฤกษ์มงคลตอนนี้ยังไม่มีเลยครับ แต่ที่คิดไว้คร่าวๆ ก็อยากจะให้เป็นช่วงเดือนธันวาคม เพราะช่วงนั้นอากาศมันดี หมดฝนแล้ว และอากาศก็กำลังหนาวนิดๆ แต่ถ้าหากฤกษ์ที่ได้มาจากพระอาจารย์ไม่ตรงกับช่วงที่อยากจัดงาน ก็คงต้องเลือกฤกษ์สะดวกแทน"
"ถามว่าทำไมถึงต้องเป็นเดือนธันวาคม อันนี้ก็เป็นเพราะว่าผมอยากจัดงานนอกสถานที่ เป็นงานในสวนเล็กๆ อบอุ่นในกรุงเทพ และก็มีมหกรรมอาหาร อยากให้แขกทุกคนที่มาร่วมงานแต่งได้อิ่มอร่อยทั้งของคาวและของหวาน"
"สำหรับสินสอดทองหมั้น จริงๆ มันก็คือหนึ่งชีวิตของผู้หญิงนะครับ ดังนั้นเราต้องให้เกียรติเขา ให้เกียรติครอบครัวเขา ไม่อยากให้น้อยหน้าใคร แต่ก็ไม่หวือหวาอลังการจนเกินไปเช่นกัน ทำทุกอย่างให้มันมีความสุขดีกว่า"
แสดงว่าการจัดงานครั้งนี้ คืองานแต่งในฝันของเรา ?
"ผมอยากได้แบบนี้ครับ อยากได้แบบธรรมดา เพราะจริงๆ แล้วญาติสนิทมิตรสหายของผมก็มีตั้งแต่ประธานบริษัท ไปจนถึงมหาโจร (หัวเราะ) ดังนั้นผมจึงอยากหาจุดตรงกลางที่ทุกคนสามารถเดินชมกันได้ กินอาหารได้ คุยกันได้ สักประมาณ 500 คนก็น่าจะเต็มกลืนแล้ว เอาไว้ใกล้ๆ งานจะแจ้งอีกทีนะครับ"
คุณแม่ท่านมีฟีดแบคยังไงบ้าง พอเราบอกว่าจะแต่งงานแล้ว ?
"คุณแม่ไม่ติดเลยครับ เพราะผมเองก็จะอายุ 40 ปีแล้ว ครึ่งคนเข้าไปแล้ว อีกอย่างการแต่งงานมันจะทำให้เรารู้ด้วยว่า เราควรมีหลักเกณฑ์ในชีวิตต่อไปยังไง ส่วนเรื่องลูกเราก็ไม่ซีเรียส เพราะเราเคยซีเรียสกันมาแล้วเมื่อประมาณ 2-3 ปีแรกที่รู้จักกัน แต่พอได้ตรวจสุขภาพอย่างจริงๆ จังๆ เราถึงได้ทราบว่าการมีลูกสำหรับเรานั้นมันเป็นเรื่องที่ไกลตัวและยากพอสมควร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมกับแฟนไม่ซีเรียส"
"กับทางครอบครัวแฟน ผมก็เหมือนจะเคยถามคุณแม่เขาคร่าวๆ นะครับว่า 'ถ้ามีหลานให้ไม่ได้แม่อย่าว่านะ' ก็เคยคุยกันประมาณนี้ ส่วนเรื่องรับเด็กมาเลี้ยง เอ่อ...จริงๆ เราเองก็มีหลานให้ต้องดูแลอยู่แล้วนะครับ 3 คน เลี้ยงกันมาตั้งแต่แบเบาะ ดังนั้นถ้าหากเราจะไม่มีลูกจริงๆ ก็ไม่เป็นไร อยู่กันสองคนตายายก็สบายใจดี"
แสดงว่าเราได้ปรึกษาแพทย์แล้วเรื่องการมีทายาท ?
"ปรึกษาแล้วครับ ตอนนี้ก็แค่ต้องทำให้ร่างกายแข็งแรง จนสามารถสร้างฮอร์โมนได้ด้วยตัวเอง ส่วนลูกจะมาหรือไม่มาอันนี้มันเป็นเรื่องของอนาคต ไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะตัวผมถึงแม้จะไม่ปิดโอกาสแต่ก็เลิกคิดไปแล้ว คือถ้าหมกมุ่นกับมันมากๆ จะยิ่งทำให้เครียด พอเครียดปุ๊บสุขภาพก็จะแย่ตามไปด้วย ดังนั้นผมจึงเลิกคิด และปล่อยให้บุญพาวาสนาส่งไปดีกว่า"
"สิ่งเรื่องหลักๆ เลยที่ผมต้องทำตอนนี้เกี่ยวสุขการดูแลตัวเองก็คือ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ถูกต้อง คือทำแบบนี้เพื่อให้ฮอร์โมนมันสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ เพราะทุกวันนี้ผมยังต้องไปให้ฮอร์โมนอยู่เลยทุกๆ 3 เดือน คือมันต้องดูแลกันไปจนกว่าร่างกายจะสร้างสามารถสร้างฮอร์โมนได้ด้วยตัวเอง"
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ