เปิดเบื้องหลังการค้นหา "ยีราฟหาย" ลูกชายเจ้าของสวนสัตว์ชื่อดัง เป็นคนเจอซากด้วยตัวเอง
พบแล้วยีราฟหาย ซากลอยอืดอยู่ในคูน้ำ หลังระดมค้นหานานเกือบ 2 วัน สุดท้ายพบตกคูน้ำตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลูกชายเจ้าของสวนสัตว์พบเห็นด้วยตาตนเองเป็นคนแรก ขณะกำลังขับรถผ่านกลับจากการประชุมวางแผนในการค้นหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) เวลา 13.35 น. ทีมค้นหายีราฟ สัตว์ป่านำเข้าจากแอฟริกา ที่หลุดออกมาจากกรง ก่อนจะกระโดดลงจากรถบรรทุกหกล้อ ระหว่างทางการขนส่งจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสถานที่เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ของสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ในเขตพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ได้ทำการค้นพบซากของลูกยีราฟยังไม่ทราบเพศวัย 3 ปีแล้ว
หลังโผล่ขึ้นมาจากน้ำลอยอืดอยู่ภายในสระบัว ซึ่งเป็นลักษณะของคูน้ำ ขนาดกว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 150 เมตร ลึก 1.4 เมตร ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ฝั่งขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา พื้นที่ ม.5 ต.ท่าทองหลาง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ใกล้กับจุดที่พบยีราฟหลุดลงมาจากรถ ห่างเลยจากทางหลวงมาประมาณ 300 เมตร
ในสภาพลำตัวเริ่มบวมอืด มีแมลงวันเกาะตอมอยู่เต็มตามผิวหนัง และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าโชยขึ้นมาโดยรอบบริเวณ ท่ามกลางกอใบบัวที่ขึ้นรกจนหนาทึบไปทั่วเกือบทั้งสระ จนมองไม่เห็นผิวน้ำด้านล่าง
จากการสอบถาม นายดวง คิ้วคชา ผู้จัดการสำนักวิจัยและอภิบาลสัตว์ สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ บุตรชายของ ดร.ผิน คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารบริษัทซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) และเจ้าของสวนสัตว์อีก 3 แห่งในประเทศไทย กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้พบเห็นซากยีราฟเป็นคนแรก ด้วยตาตนเองพร้อมกันกับ น.สพ.อนุวัฒน์ วัฒนนรเศรษฐ์ สัตวแพทย์ประจำบริษัทซาฟารีเวิลด์
ในขณะที่กำลังขับรถวนไปกลับมาจากยูเทิร์นแล้ว หลังจากได้ไปประชุมวางแผนการค้นหาร่วมกันกับทีมงาน ที่บริเวณพื้นที่ด้านฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมซึ่งเป็นหน้างาน โดยขณะพบเห็นได้ขับรถกันมาตามเส้นทางอย่างช้าๆ พร้อมกับการสังเกตเส้นทางมาตลอดแนวริมทาง จนพบกับซากของยีราฟที่โผล่ลอยขึ้นมาจนพ้นผิวน้ำ และมองเห็นลายของยีราฟได้อย่างชัดเจนที่บริเวณโคนขาพอดี จึงได้ลงจากรถไปดู และพบว่าเป็นซากของยีราฟที่กำลังติดตามค้นหากันจริงๆ
หลังการค้นพบ จะทำการเคลื่อนย้ายนำซากของยีราฟ ไปทำการชันสูตรตามขั้นตอนของทางสัตว์แพทย์ ยังที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าของทางบริษัทที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งก็จะมีการตรวจสอบเก็บข้อมูลตามกระบวนการทางสัตว์แพทย์ก่อน ทำการฝังกลบทำลายซากตามกระบวนการของสัตว์แพทย์
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า โดยธรรมชาติของยีราฟนั้นสามารถลงน้ำหรือว่ายน้ำได้หรือไม่ นายดวง ตอบว่า โดยธรรมชาติของยีราฟนั้นจะเป็นสัตว์ที่ไม่ลงน้ำและว่ายน้ำไม่ได้ โดยสาเหตุที่ตกลงไปในคูน้ำนั้น อาจจะอยู่ในระหว่างตกใจและมีความเครียด หรือตื่นตัว และมองไม่เห็นว่าพื้นที่บริเวณที่ตกลงไปนั้นเป็นสระน้ำ เนื่องจากภายในคูน้ำแห่งนี้มีใบบัวขึ้นปกคลุมอย่างหนาแน่น
โดยที่ยีราฟที่สูญเสียไปนั้น มีอายุประมาณราว 3 ปี แต่ยังไม่ทราบเพศ เนื่องจากมีการนำเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมากถึง 78 ตัว จึงยังไม่ได้มีการตรวจสอบหรือเก็บข้อมูล
ด้าน น.สพ.อนุวัฒน์ วัฒนนรเศรษฐ์ สัตวแพทย์ประจำบริษัทซาฟารีเวิลด์ กล่าวว่า ปกติยีราฟจะไม่ลงน้ำ สาเหตุที่ตกลงไปในบ่อบัว เนื่องจากมองไม่เห็นสภาพของพื้นที่ และคูน้ำยังมีความสูงชันจนไม่สามารถตะกายขึ้นมาได้ สำหรับยีราฟตัวนี้มีอายุประมาณ 3 ปี ส่วนตัวที่จับกลับคืนไปได้แล้วก่อนหน้านั้น เป็นยีราฟเพศเมียวัยประมาณ 5 ปี และตัวสูงใหญ่กว่าตัวนี้ ส่วนยาที่เตรียมไว้ยิงให้หยุดการเคลื่อนไหวนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลที่จะทำให้ยีราฟตกลงไปในคูน้ำ
เนื่องจากในวันแรกนั้น มีการปฏิบัติการท่ามกลางความมืด โดยยาที่ยิงไปดอกสุดท้าย ยิงถูกฝังติดไปกับตัวสัตว์ที่บริเวณขาหน้าซ้าย แต่เชื่อว่ายาอาจจะเข้าไม่เต็มโดส เพราะสัตว์ยังเคลื่อนไหวต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะหายตัวไป นสพ.อนุวัฒน์ กล่าว
>> ไร้ปาฏิหาริย์! เจอยีราฟตัวใหญ่แล้ว พบซากนอนตายอยู่ในคูน้ำริมถนน
>> ยีราฟอีกตัว ยังหายไปกับความมืด หลังจับตัวแรกได้ ประธานซาฟารีเวิลด์ เล่าสาเหตุน้องหลุดกรง
>> มนุษย์เป็นงง "ยีราฟ" โผล่เดินริมถนนฉะเชิงเทรา ตัวเล็กจับได้แล้ว อีกตัวยังหนีเตลิด
>> สงสาร..เปิดคลิป ยีราฟ ถูกมอเตอร์ไซค์ชนขา เมื่อ 2 วันก่อนพบว่าจมน้ำตาย (คลิป)