Sanook คลุกข่าวเช้า 31 ม.ค. 63 ประกาศภาวะฉุกเฉินไวรัสโคโรนา-จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ

Sanook คลุกข่าวเช้า 31 ม.ค. 63 ประกาศภาวะฉุกเฉินไวรัสโคโรนา-จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ

Sanook คลุกข่าวเช้า 31 ม.ค. 63 ประกาศภาวะฉุกเฉินไวรัสโคโรนา-จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดียามเช้าของวันศุกร์ที่เป็นวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์นี้รวมทั้งยังเป็นวันสิ้นเดือนมกราคมอีกด้วยนะครับ หลายๆ คนบอกว่าเดือนแรกของปี 2020 นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากหลายมากๆ เลย อันนี้ผมเห็นด้วยเลยนะครับ เพราะในแง่ของคนทำงานด้านสื่อ ต้องบอกว่าทีมงานนั่งมอนิเตอร์ข่าวกันแทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว

และเช่นเคยครับ เช้านี้มีประเด็นข่าวน่าสนใจมาฝากกันอีกเช่นเคย ส่วนท่านผู้อ่านที่อยากจะทดลองเทคโนโลยี Text to Speech ของบริษัทเราที่สามารถใช้ระบบ AI แปลงตัวหนังสือในเนื้อหาให้ออกมาเป็นเสียงอ่านได้ ก็สามารถเลื่อนขึ้นไปมองหาสัญลักษณ์รูปลำโพงแล้วกดฟังเนื้อหากันได้นะครับ

  • อนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินจากไวรัสโคโรนาระบาด

หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดการประชุมในช่วงบ่ายที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตรงกับเวลาในบ้านเราเมื่อคืนนี้ ผลปรากฏว่า คณะกรรมการมีมติประกาศให้การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในขณะนี้เป็น "ความฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ"

ซึ่งผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นายแพทย์เทดรอส อัธนอม เกเบรเยซุส (Dr.Tedros Adhanom Ghebreyesus) กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเจนีวาว่า เหตุผลสำคัญของการประกาศให้การระบาดของโคโรนาไวรัสที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น เป็น "ความฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ" ไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน แต่เป็นเพราะการพบผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ความกังวลที่สุดขององค์การอนามัยโลก คือ หากไวรัสชนิดนี้ระบาดไปในประเทศที่มีระบบป้องกันด้านสาธารณสุขไม่ดีพอ จะทำให้ยากต่อการรับมือ โดยการประกาศครั้งนี้จะช่วยให้ WHO รับมือกับการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสในระดับนานาประเทศได้ง่ายขึ้น

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจนถึงช่วงเช้านี้อยู่ที่ 9,821 คน เสียชีวิตแล้ว 213 ราย โดยอินเดียและฟิลิปปินส์เป็นสองประเทศล่าสุดที่ประกาศยืนยันพบผู้ติดเชื้อ ส่วนที่อิตาลีต้องมีการกักตัวผู้โดยสารบนเรือสำราญราว 6,000 คน เนื่องจากต้องเฝ้าตรวจดูอาการหลังพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนบนเรือป่วยเป็นไข้

สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในอาเซียนที่นำพลเมืองจากอู่ฮั่นกลับประเทศ โดยกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์แถลงว่า ชาวสิงคโปร์ 92 คน เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ถึงสิงคโปร์แล้วเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ด้วยสายการบิน Scoot เที่ยวบินที่ TR121

สถานการณ์ในบ้านเรายังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมยังอยู่ที่ 14 ราย เมื่อวานนี้กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่ารักษาหายจนกลับบ้านได้อีก 1 ราย เหลือผู้ติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาลตอนนี้ 8 ราย กลับบ้านได้แล้วรวม 6 ราย ส่วนการบินไปรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่นยังคงต้องรอการอนุญาตจากทางการจีนต่อไป

  • จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ 9 รัฐมนตรี-ก๊วน 3 ป. เจอลากขึ้นเขียงครบ

วันนี้ช่วงเที่ยง พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีข่าวออกมาเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานว่ามี 9 รัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอก ประกอบด้วย

  1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
  2. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
  3. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
  4. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
  5. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข
  6. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง
  7. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
  8. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ
  9. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

ที่น่าสังเกตคือ ก๊วน 3 ป. ผู้ทรงอำนาจฝ่ายบริหารในยุคนี้ คือ ป.ประวิตร ป.ป๊อก (อนุพงษ์) และ ป.ประยุทธ์ ถูกฝ่ายค้านล็อกเป้าลากขึ้นเขียงเตรียมให้ไพร่พลอภิปรายซักฟอกในสภาด้วย คงต้องจับตาว่าจะมีการปะทะคารมกันดุเด็ดเผ็ดมันส์ขนาดไหน

ขณะที่หลายคนถามไถ่กันเข้ามาว่า อาการป่วยของ "บิ๊กตู่" จะส่งผลต่อการมาประชุมสภาหรือไม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่าวิปฝ่ายค้านและวิปฝ่ายรัฐบาลคงมีการประสานงานกันไว้แล้วว่าจะใช้เวลาอภิปรายทั้งสิ้นกี่ชั่วโมง ซึ่งด้วยจำนวนที่เยอะถึง 9 คน น่าจะอภิปรายวันเดียวไม่จบ ดังนั้นถ้าลุงตู่ยังป่วยฝ่ายค้านก็คงสลับไปอภิปรายรัฐมนตรีท่านอื่น รอจนกว่าท่านนายกฯ จะหายป่วยพร้อมเข้ามาฟังการอภิปรายด้วยตัวเอง

  • ไร้ปาฏิหาริย์! เจอยีราฟตัวใหญ่แล้ว พบซากนอนตายอยู่ในคูน้ำริมถนน

หลังจากระดมทีมค้นหายีราฟที่หลุดหายไประหว่างการขนส่งอยู่ 2 วัน ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้พบตัวยีราฟที่หายไปแล้ว แต่น่าเศร้ามากที่เจ้าหน้าที่ไปพบศพยีราฟนอนตายอยู่ในคูน้ำบริเวณริมถนนสาย 304 บางคล้า-พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

ขณะที่ในโลกออนไลน์มีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ในระหว่างที่ยีราฟกำลังวิ่งอยู่บนถนนหลังหลุดออกมาในระหว่างขนส่ง แล้วพบว่ามีผู้ขับขี่รถจักรยานต์คันหนึ่งที่ดูเหมือนมีความตั้งใจจะแซงรถคันหน้าตนเอง แต่กลับไปเฉี่ยวชนเข้าที่ขาของยีราฟ จนมีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากถึงการกระทำดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าจะนำบทเรียนเหตุการณ์การเคลื่อนย้ายสัตว์จนเกิดเหตุไม่คาดคิดเช่นนี้ไปปรับปรุงแนวทางการเคลื่อนย้ายและขนส่งต่อไป

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีในฝั่งบันเทิงที่ บุ้ง สะธี หรือ บุ้ง ใบหยก ภรรยาของหนุ่ม เวฟ สาริน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้จักและสนิทกันมากกับ นนท์-ธนน วีอารยะ แฟนหนุ่มไฮโซของสาวสวย ไอซ์ อภิษฎา ถึงกับออกมาโพสต์เคลียร์ เพราะไม่ไหวแล้วกับคอมเมนต์ที่ชาวเน็ตหาว่า ไฮโซนนท์ เป็น "เสี่ยกำมะลอ"

ติดตามสาระบันเทิง วารไตี้ ไลฟ์สไตล์ ได้ทั้งหมดที่ sanook.com แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook