ไพบูลย์ นิติตะวัน เชื่อศาลไฟเขียวงบประมาณ 63 เพราะได้รับเสียงข้างมากอยู่แล้ว
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความเห็นวันนี้ (2 ก.พ.) ว่า ร่างพระราชบัญญัติ (ร่าง พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 น่าจะได้รับคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญให้นำไปบังคับใช้ได้ แม้จะพบว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บางคนเสียบบัตรแทนเพื่อนสมาชิก
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตราขึ้นโดยถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังพบว่า ส.ส. บางคนเสียบบัตรแทนเพื่อน ส.ส. ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม ระหว่างการพิจารณาวาระ 2 และ 3
สาเหตุที่นายไพบูลย์เชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นชอบให้ร่างกฎหมายดังกล่าวนำไปบังคับใช้ได้ เพราะน่าจะสอดคล้องกับแนวของคําวินิจฉัยที่ 8 /2551 เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2551 เรื่อง นายกรัฐมนตรีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการตราร่างพระราชบัญญัติสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. ...
ซึ่งแม้ว่าคดีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ร่างพระราชบัญญัติสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. … ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และเป็นอันตกก็ตาม แต่เหตุที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตกไป ปรากฎในคำวินิจฉัยที่ 8/2551 มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเข้าประชุมเพียง 50 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในขณะนั้น คือ 121 คน
ดังนั้นการยื่นคำร้องกรณี ส.ส. ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติทั้งที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย 2563 วาระ 2 และ 3 โดยข้อเท็จจริงมีจำนวนเพียง 2-3 เสียงเท่านั้น แม้การออกเสียงดังกล่าวจะไม่เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีผลใดๆที่จะทำให้การพิจารณา วาระ 2 และ 3 ไม่ครบองค์ประชุมและไม่ได้มติเสียงข้างมาก
นายไพบูลย์ จึงเห็นว่าด้วยแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 8/2551 ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2563 ซึ่งตราขึ้นโดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรออกเสียงลงคะแนนครบองค์ประชุมและการลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมากตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 120 ทั้งวาระ 2 และ 3 จึงเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ตราขึ้นโดยถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ