โจ๋วัย 15 ถูกกระสุนปริศนายิงดับในงานกาชาด แม่อยู่เกาหลีร่ำไห้กลับมางานศพลูกไม่ได้

เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ถูกกระสุนปริศนาดับในงานกาชาดที่ จ.บุรีรัมย์ ญาติยืนยันยังไม่เผาศพจนกว่าจะจับตัวคนร้ายและนำมาขอขมาศพ กลัวหลานตายตาไม่หลับ เผยแม่ทำงานที่เกาหลีไม่มีโอกาสแม้กระทั่งจะมางานศพลูก ขณะตำรวจเร่งแกะรอยภาพวงจรปิดใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเพื่อล่าตัวมาดำเนินคดี

จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่นที่ไปเที่ยวงานกาชาดประจำปี หน้าที่ว่าการอำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วก่อเหตุยกพวกทะเลาะวิวาทย์ชกต่อยกันในงาน ทั้งยังได้ขว้างระเบิดและยิงปืนใส่ จนเป็นเหตุให้กระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาด เจาะเข้าบริเวณชายโครงด้านซ้ายของนายทรงวุฒิ หรือ น้องต๊อก เยาวชนชายอายุ 15 ปี ที่ไปเที่ยวงานได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล   

ล่าสุด (2 ก.พ.) ทางครอบครัวก็ได้นำร่างของน้องต๊อก ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเมืองแฝก ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ โดยมีญาติพี่น้อง ชาวบ้าน และเพื่อนๆ เดินทางมาไหว้ศพอย่างต่อเนื่อง   

ด้าน นางรัตน์ อายุ 51 ปี ยายของผู้ตาย บอกว่า เบื้องต้นทางครอบครัวยังไม่กำหนดวันฌาปนกิจศพของน้อง เพราะอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนที่ก่อเหตุยิงน้องเสียชีวิตให้ได้และอยากให้มากราบขอขมาศพของน้องก่อน จึงจะกำหนดวันเผาเพราะกลัวน้องนอนตายตาไม่หลับ และหากผู้ก่อเหตุมากราบขอขมาศพและสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำทางครอบครัวก็พร้อมจะอโหสิกรรมให้ 

ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าน้องไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทย์กับใคร แต่ที่น้องถูกยิงเสียชีวิตน่าจะถูกลูกหลงเพราะไปเที่ยวอยู่ในงาน เพราะจากการสอบถามเพื่อนที่ไปด้วยกันทราบว่าก่อนที่น้องจะถูกยิง มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทย์ปาสิ่งของใส่กันก่อนที่จะมีเสียงปืนและเสียงระเบิด   

นางรัตน์ ยังบอกอีกว่า สิ่งที่น่าเศร้าใจคือน้องถูกพ่อทิ้งตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่ก็ต้องไปทำงานที่ประเทศเกาหลี เพื่อดิ้นรนหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูยายและลูก ซึ่งพอญาติโทรไปบอกว่าน้องถูกยิงเสียชีวิตแม่ก็ร้องไห้ตลอดและอยากจะกลับมางานศพลูกชาย

แต่เนื่องจากยังมีหนี้สินและไม่มีค่าเครื่องบินที่จะกลับมางานศพของลูกชายตัวเอง ก็อยากฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นว่าไม่ควรจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทย์กัน ไปเที่ยวงานก็เที่ยวกันปกติ ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีกขอให้เป็นศพสุดท้าย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นข้อมูลเบาะแสในการติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิง หรือปาระเบิดในงาน มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว และจากการเรียกกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ขณะนี้ก็พอรู้กลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวงานบ้างแล้วว่าเป็นกลุ่มไหนบ้าง ก็คาดว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ในเร็วๆ นี้