เจ้าของเพลงดังฟ้อง "นักร้องดูโอรุ่นใหญ่" ละเมิดลิขสิทธิ์มา 18 ปี แถมขอจ่ายแค่ 2 หมื่น

นักแต่งเพลงดังฟ้องศิลปินดูโอรุ่นใหญ่ละเมิดลิขสิทธิ์มานาน 18 ปี แต่คดีไม่คืบหน้า ฟ้องเรียก 5 ล้าน เดือดหนัก! ศิลปินดังเจรจาขอจ่าย 2 หมื่น   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานกฎหมายทนายรัชพล ศิริสาคร เลขที่ 8 ซอยประชาราษฎร์ 5 แยก 14/3 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายวรวิทย์ หรือ ไบร์ท นิมมานศิริกุล ศิลปินและนักแต่งเพลงชื่อดัง เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงดังในอดีตปี 2544 - 2545 พร้อมด้วยนายกสิ หรือ ปอร์ นิพัฒน์ศิริผล อดีตโปรดิวเซอร์ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ นายธนภูมิ หรือ ฟลุก ฟลุกเกอร์ ศิลปินอินดี้ชื่อดัง เดินทางเข้าพบนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

เพื่อให้ติดตามคดีที่ถูกนักร้องคู่หูรุ่นใหญ่ เอาเพลงไปร้องโดยละเมิดลิขสิทธิ์นาน 18 ปี และไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เป็นธรรมให้กับเจ้าลิขสิทธิ์เพลง แถมยังอ้างว่าตัวเองเป็นคนแต่ง เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้แจ้งความดำเนินไว้แล้วที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แต่ผ่านมา 3 ปี คดีกลับไม่มีคืบหน้าใดๆ

นายวรวิทย์ หรือ ไบร์ท นิมมานศิริกุล ศิลปินและนักแต่งเพลงผู้แต่งเพลงดังกล่าว เปิดเผยว่า เพลงดังกล่าวเป็นเพลงที่ตนและเพื่อนชื่อต่อ เอกวิทย์ เกียรติพิริยะ เป็นคนช่วยกันแต่งขึ้นมาในปี 2543 โดยมีคุณปอร์และคุณฟลุก เป็นพยานในเหตุการณ์ขณะที่ตนแต่คำร้องจนได้เพลงนี้ออกมา

ต่อมาตนได้นำไปร้องออกอากาศเมื่อปี 2544 จนกระทั่งนายแชมป์ได้ฟังเพลงนี้และแอบจดเอาเนื้อเพลงนี้ไปขายต่อให้กับค่ายเพลงชื่อดัง และมีการเซ็นสัญญาให้ศิลปินดูโอคู่นี้นำไปทำอัลบั้มเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท

หลังจากนั้นศิลปินดูโอได้มีการนำเพลงของตนไปร้องอีกในงานคอนเสิร์ตที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 12 ก.ย.58 จนตนมาทราบว่ามีการนำเพลงของตนมาทำเป็นดีวีดีออกจำหน่ายรวมอยู่ด้วย จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ 

นายวรวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาพบดีวีดีชุดดังกล่าวออกวางจำหน่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดต่อไปที่ร้านพบว่าศิลปินดูโอเป็นเจ้าของบริษัทที่ผลิตออกมาจำหน่าย เมื่อวันที่ 2 ก.พ.60 จึงได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดี แต่ผ่านมาถึงปัจจุบันคดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ซึ่งตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ศิลปินดูโอทั้ง 2 มีการนำเพลงไปแสดงสดตลอดมา แต่ไม่เคยมีการชำระค่าลิขสิทธิ์เพลงให้กับตนซึ่งเป็นผู้ประพันธ์ และเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงที่แท้จริง แม้แต่ครั้งเดียว และยังพูดบิดเบือนว่าเพลงนี้คนอื่นเป็นคนแต่งไม่ใช่ตน

ซึ่งเป็นการปกปิดความจริงเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนักแต่งเพลง เพราะมีหลักฐานคือการกล่าวอ้างบนเวทีและในรายการต่างๆ ซึ่งตนได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว ในวันนี้จึงตัดสินใจเดินทางมาขอคำปรึกษาจากทนายรัชพลเพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีคืนความเป็นธรรมให้ตนเอง 

นายวรวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า นักแต่งเพลงเป็นเสมือนบันไดที่ปูทางให้ศิลปินเดินขึ้น จงเก็บรักษาไว้อย่าไปเหยียบย่ำ ไม่ว่าวันหนึ่งคุณจะเดินลงมาหรือต่อยอดไปได้อีก คุณก็ไม่ควรจะมาเหยียบย่ำนักแต่งเพลงแบบนี้

และตนขอพูดแทนในนามนักแต่งเพลงไว้ตรงนี้ เพราะมีการนัดไกล่เกลี่ยค่าลิขสิทธิ์ไว้ที่ 5 ล้านบาทตามความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่กลับถูกต่อรองจะจ่ายค่าละเมิดลิขสิทธิ์เพียง 2 หมื่นบาท มันแสดงถึงความไม่จริงใจในการไกล่เกลี่ยและดูถูกศักดิ์ศรีนักประพันธ์เพลง นักแต่งเพลงมากเกินไป

ทางด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม กล่าวว่า หลังผู้เสียหายเดินทางเข้าปรึกษาให้ติดตามคดี พบว่าคดีนี้มีความล่าช้าจริงแต่ยังไม่ทราบว่าในขั้นตอนไหน ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน

ปกติคดีแบบนี้ต้องมีการออกหมายเรียกคู่กรณีและผู้เสียหายสอบปากคำแล้ว และน่าจะมีการเรียกไกล่เกลี่ย แต่ถึงตอนนี้ผู้เสียหายไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด ตนจึงจะไปติดตามคดีนี้ที่ สตช.ในวันที่ 4 ก.พ.63 เวลา 12.30 เพื่อเร่งรัดคดีนี้