ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก “จ่าประสิทธิ์” 2 ปี คดีซุกเสื้อเกราะหลังสลายชุมนุม นปช.

ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "จ่าประสิทธิ์" ครอบครองเสื้อเกราะช่วงหลังสลายการชุมนุม นปช. 10 เม.ย.53

ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการคดีฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อายุ 55 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ม.4,15 และ 42

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย.53 จำเลยได้มีเสื้อเกราะกันกระสุน 2 ตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่ม นปช. และมีกลุ่มคนร้ายแย่งชิงเครื่องยุทธภัณฑ์ จากเจ้าหน้าที่ทหารไปหลายรายการโดยจำเลยได้ มีเสื้อเกราะกันกระสุน 2 ตัวดังกล่าว คดีนี้ จำเลยให้การปฏิเสธสู้คดีมาโดยตลอดและศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อปี 61 สั่งจำคุกจำเลยฐานรับของโจร 1 ปี ฐานมีเสื้อเกราะกันกระสุน ฯ อีก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาต่อมาจำเลยได้ยื่นประกันต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ และศาลมาฟังคำพิพากษาในวันนี้

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ซึ่งหมวกนิรภัยและเสื้อเกราะที่จำเลยรับไว้นั้น ได้มาจากการแย่งชิงจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ จำเลยไม่ได้มีไว้ เพื่อป้องกันตัวตามที่อ้าง อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยขอให้รอลงอาญานั้น ศาลอุทธรณ์พิจารณาพฤติการณ์ชุมนุมที่ปรากฏข่าว ทราบโดยทั่วไปว่ามีการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสของเจ้าหน้าที่ มิใช่มีแต่ผู้ชุมนุม ไม่ถือเป็นการชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา

ด้าน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ จำเลย เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาว่า จะขอสู้คดีในชั้นฎีกาต่อ โดยเตรียมหลักทรัพย์มา 7 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว แต่หากการยื่นประกันสุดท้ายแล้วจะต้องส่งให้ศาลสูงพิจารณาคำร้อง แล้วส่งผลให้วันนี้ตนอาจต้องเข้าเรือนจำก่อนก็ทำใจไว้แล้ว