เจ้าของตึกร้างสาทร ท้อใจ คนญี่ปุ่นยัดเงินยามแอบขึ้นตึก ลั่น "ไม่อยากให้ใครตกลงมาตาย"

เจ้าของตึกร้างสาทร ท้อใจ คนญี่ปุ่นยัดเงินยามแอบขึ้นตึก ลั่น "ไม่อยากให้ใครตกลงมาตาย"

เจ้าของตึกร้างสาทร ท้อใจ คนญี่ปุ่นยัดเงินยามแอบขึ้นตึก ลั่น "ไม่อยากให้ใครตกลงมาตาย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นอีกหนึ่งตึกร้างในตำนานของคนกรุงเทพฯ สำหรับ อาคารสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ย่านถนนเจริญกรุง และยังเป็นเป้าหมายของคนที่ชอบเรื่องลี้ลับเข้าไปลองของ รวมถึงกลุ่มคนที่ชอบความสูง ความหวาดเสียวท้าทาย ลักลอบเข้าไปในอาคารอยู่เสมอ ล่าสุด นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง และเป็นเจ้าของอาคารดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pansit Torsuwan ระบุว่า

"เรื่องคนญี่ปุ่นบุกรุกขึ้นไปถ่ายรูปบนตึกสาธรยูนีค แล้วทวีตเตอร์ อินสตราแกรมชักชวนคนอื่นให้มาปีนตึกด้วยการยัดเงินยามนั้น ผมทราบเรื่องแล้ว ผู้รับผิดชอบก็ได้ไล่ยามคนนั้นออกไปแล้ว ที่ตึกมีการเสริมรั้วลวดหนามโดยรอบ ติดป้ายห้ามเข้าอย่างชัดเจน การบุกรุกของคนต่างชาติและคนไทยมีมาอย่างต่อเนื่อง ผมคงดำเนินคดีไม่ไหว หลายปีก่อนแจ้งความก็มีผู้ปกครองมาขอเจรจาเห็นแก่อนาคตของเด็ก เป็นแบบนี้เสมอ

ผมก็ไม่อยากดำเนินคดีกับใคร แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครตกลงมาตาย ซึ่งไม่ใช่เดือดร้อนแค่คนที่ประสบเหตุและครอบครัวเท่านั้น แน่นอนผมก็เดือดร้อนเช่นกัน ผมส่งข้อความไปถึงคนต่างชาติที่ทวีตเตอร์ชักชวนคนอื่นแล้วว่าเป็นอาชญากรรม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะสำเหนียกอะไรหรือเปล่า

เรื่องตึกนี้มันเป็นปัญหากับชีวิตผมมานานมากแล้วทั้งทางธุรกิจและทางคดีความ ผมก็ไม่ปรารถนาจะให้เกิดปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก ได้แต่ขอความเห็นใจจากทุกๆ คน ได้โปรดช่วยแชร์ ช่วยบอกต่อ ช่วยสื่อสารให้ด้วยครับ

จนใจไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ท้อมาก"

ทั้งนี้ อาคาร สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ย่านสาทร มีความสูง 47 ชั้น ก่อนที่จะประสบปัญหาด้านเงินลงทุนก่อสร้างในช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จนกลายเป็นตึกร้าง ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนนิยมเดินขึ้นไปเพื่อถ่ายรูปวิว จนเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2557 จะมีผู้พบศพคนผูกคอตายที่ชั้น 43 และกลายเป็นข่าวโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่ง

ต่อมา อาคารดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "เพื่อนที่ระลึก" ซึ่งทางทีมงานได้ขออนุญาตใช้สถานที่อย่างถูกต้อง แต่ขณะเดียวกันยังคงมีผู้คนฝ่าฝืนขึ้นไปภายในอาคารอยู่เป็นประจำ แม้จะมีการติดป้ายประกาศห้ามเข้า รวมทั้งจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยแล้วก็ตาม ทำให้เจ้าของอาคารต้องแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกไปแล้วหลายคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook