เพื่อนเผยหนุ่มบิ๊กไบค์ชนเสาไฟจนคอขาดกระเด็น เพราะไม่ชินขี่ขึ้นเขา-ไม่คุ้นเส้นทาง

เพื่อนเผยหนุ่มบิ๊กไบค์ชนเสาไฟจนคอขาดกระเด็น เพราะไม่ชินขี่ขึ้นเขา-ไม่คุ้นเส้นทาง

เพื่อนเผยหนุ่มบิ๊กไบค์ชนเสาไฟจนคอขาดกระเด็น เพราะไม่ชินขี่ขึ้นเขา-ไม่คุ้นเส้นทาง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่เกิดเหตุชายหนุ่มขับบิ๊กไบค์แล้วประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าจนศีรษะและร่างกายขาดกระเด็นออกจากกัน เสียชีวิตอย่างเศร้าสลดนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายอภิวัฒน์ อาสาสมัครกู้ภัย อบต.เวียงตาล ซึ่งเปิดเผยว่า โค้งดังกล่าวอยู่ก่อนบริเวณโค้งแตงโมเล็กน้อย ปีที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก มีคนเสียชีวิตที่บริเวณดังกล่าว 4 ศพ ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บนับแทบไม่ถ้วน ส่วนใหญ่รถมักหลุดโค้ง เนื่องจากหลายรายไม่ชินทางและใช้ความเร็วสูงจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนหากใช้เส้นทางดังกล่าวต้องอย่าขับรถเร็ว ขับรถตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกถนนมักจะลื่นมากต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ส่วนที่ สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นายพงษ์สาย อายุ 38 ปี ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหัวหน้างานของผู้ตายซึ่งขับบิ๊กไบค์มาด้วยกัน ได้มาดำเนินการแทนญาติของผู้ตายเพื่อจะทำเรื่องนำศพของผู้ตายกลับไปบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิด พร้อมกับเปิดเผยว่าทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนเกิดเหตุได้ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์จาก กทม. มาด้วยกัน 3 คัน (รวมคันของผู้ตาย) เพื่อจะไปเที่ยวที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ซึ่งตอนที่ขี่ออกมาจาก กทม.ก็ปกติดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่าผู้ตายไม่ค่อยชินกับการขี่รถ จยย.ขึ้นเขา และก็ไม่คุ้นเส้นทาง จึงตัดสินใจให้ผู้ตายขี่ตามท้ายพร้อมกับพูดคุยผ่านบลูทูธและได้กำชับให้ใช้ความเร็วที่เหมาะสมไม่ต้องขี่ไวมาก เอาที่ตนเองไหว ซึ่งตอนนั้นผู้ตายก็ยังบอกว่าได้อยู่ แต่ตนก็สังเกตว่าผู้ตายขี่ตามท้ายมาในระยะที่ห่างพอสมควร จนกระทั่งสัญญาณบลูทูธขาดไป

ตนเองและเพื่อนจึงไปจอดรถรอที่ใต้ต้นไม้ใกล้กับดอยขุนตาล และพยามโทรหาผู้ตายแต่ก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งมีรถสิบล้อมาจอดและตะโกนบอกว่าระหว่างทางที่ขับรถขึ้นเขามาเห็น จยย.เกิดอุบัติเหตุ ให้ไปดูว่าใช่พวกดียวกันหรือไม่ ตนเองและเพื่อนจึงขี่รถ จยย.ย้อนกลับไปดู เมื่อเห็นสภาพศพของผู้ตายแล้วยอมรับว่าสลดใจและตกใจมาก เพราะศีรษะกับร่างขาดออกจากกันกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งนี้ ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook