“จุรินทร์” ปัดตอบเหตุใดไม่แจกหน้ากากอนามัยฟรี แถมขายแพงกว่าองค์การเภสัชกรรม

“จุรินทร์” เผยร้านธงฟ้าทั่วประเทศเตรียมจำหน่ายหน้ากากอนามัย 2.50 บาท สั่งผู้ผลิตเพิ่มกำลังผลิตต่อเนื่อง มั่นใจผลิตทัน ด้านประชาชนโห่ไม่พอใจ หลังเปิดจำหน่ายล่าช้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 10 ก.พ.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะกระจายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ จำนวน 5 แสนชิ้น เพื่อจำหน่ายในร้านธงฟ้า 820 ร้านทั่วประเทศ โดยจำหน่ายในราคา 2.50 บาทต่อ 1 ชิ้น และสั่งการให้จำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม สอดคล้องกับต้นทุน พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้ผลิตต้องจำหน่ายไม่เกินราคา

นอกจากนี้ ยังได้กำชับไปยังผู้ผลิตประมาณ 10 ราย ให้เพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเชื่อว่าจะผลิตได้ทันและเพียงพอต่อความต้องการ เพราะผลิตได้ 5 ล้านชิ้นต่อวัน แต่ยังต้องให้ประชาชนชื้อในจำนวนจำกัด เพื่อประเมินสถานการณ์ของฝุ่น PM 2.5 และไวรัสโคโรนา

ส่วนการกระจายสินค้านั้น ให้ผู้ผลิตกระจายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศให้ทั่วถึง และกำหนดให้ส่งเพิ่มไปยังสถานที่ที่ประชาชนต้องการ เช่น ที่ทำเนียบรัฐบาล จะจำหน่าย 15 วัน ในจำนวน 3 แสนชิ้น

ส่วนการที่องค์การเภสัชกรรมจำหน่ายในราคา 1 บาท ต้องไปถามว่าต้นทุนขององค์การเภสัชกรรมราคาเท่าไหร่ ซึ่งตนไม่ทราบต้นทุนการผลิต เพราะองค์การเภสัชกรรมก็เป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยเหมือนกัน ส่วนที่มีการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาในโลกออนไลน์นั้น ตนได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายในจะเป็นผู้ชี้แจงให้สื่อได้รับทราบ

ขณะที่นายจุรินทร์ ยังเผยอีกด้วยว่า จำนวนการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา มีทั้งสิ้น 11 ราย โดยมีหลักฐานทั้งหมด เช่นหน้ากาก N95 ขาย 80-100 บาท และหน้ากากพื้นเขียว ขาย 10-25 บาท

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าวันนี้มีประชาชนมารอการจำหน่ายหน้ากากอนามัยก่อนเวลา 9.00 น. โดยประชาชนได้โห่ร้องแสดงความไม่พอใจที่เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ โดยเปิดในเวลา 10.00 น. จากกำหนดการเดิม 9.00 น. เมื่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินลงมาจากห้องประชุมเพื่อมาเปิดจำหน่าย ประชาชนต่างส่งเสียงตะโกนก่อนที่จะสงบลง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายจุรินทร์ ว่าเหตุใดรัฐบาลไม่มีนโยบายแจกหน้ากากอนามัยฟรี ซึ่งนายจุรินทร์ไม่ได้ตอบประเด็นดังกล่าว แต่ได้ยกข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่าย เนื่องจากหน้ากากอนามัยจัดอยู่ในหมวดหมู่สินค้าควบคุม