ไล่เหตุการณ์ กราดยิงโคราช สรุปปฏิบัติการกว่า 17 ชั่วโมง ช่วยชีวิตข้ามคืนสุดระทึกขวัญ!

ไล่เหตุการณ์ กราดยิงโคราช สรุปปฏิบัติการกว่า 17 ชั่วโมง ช่วยชีวิตข้ามคืนสุดระทึกขวัญ!

ไล่เหตุการณ์ กราดยิงโคราช สรุปปฏิบัติการกว่า 17 ชั่วโมง ช่วยชีวิตข้ามคืนสุดระทึกขวัญ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา แต่เกิดเรื่องเศร้าขึ้นกับพี่น้องชาวไทย เมื่อมีรายงานเหตุระทึกขวัญของทหารนายหนึ่ง! จุดเริ่มต้นของความเลวร้ายเกิดขึ้นในช่วงบ่ายแก่ๆ ยาวนานข้ามวันกินเวลาประมาณ 17 ชั่วโมงจึงถึงจุดสิ้นสุด เป็น 17 ชั่วโมงที่เราอยากให้เป็นเพียงฝันร้าย #กราดยิงโคราช

สรุปเหตุการณ์ "กราดยิงโคราช"

- เวลาประมาณ 15.30 น. จ่าสิบเอกรายหนึ่ง สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. บุกเข้าไปยิง พันเอกนายหนึ่ง อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และยิง แม่ยายวัย 63 ของผู้บังคับบัญชาด้วย จนเสียชีวิตทั้งคู่

- จากนั้น จ่าสิบเอกคลั่งรายนี้ได้บุกไปที่คลังอาวุธในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ แย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ และยิงพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิต 1 นาย ได้อาวุธออกมาเป็นจำนวนมาก ก่อนจะขโมยรถฮัมวีของหน่วยราชการขับหนีออกมาด้วย

- เมื่อออกจากค่ายทหาร จ.ส.อ.คนดังกล่าวเริ่มมีอาการคุ้มคลั่ง ใช้อาวุธกราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมารวมทั้งตำรวจที่จะเข้าระงับการก่อเหตุ พร้อมกับเข้าไปก่อเหตุกราดยิงในวัดป่าศรัทธาธรรม ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนี จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช นอกจากนี้ ระหว่างนั้นเจ้าตัวยังมีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ยิง 3 ศพ เพื่อล้างแค้น นอกนั้นป้องกันตัว”

- เมื่อผู้ก่อเหตุมาถึงห้างสรรพสินค้า ได้ทำการกราดยิงผู้คนบริเวณนั้น พร้อมกับยิงถังแก๊สที่ตั้งอยู่ภายนอกจนระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ แล้วยังทำการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง ลงรูปเซลฟี่กับไฟไหม้ โพสต์คลิปและข้อความ ระบุว่า "เหนื่อยแล้ว กระดิกนิ้วไม่ไหวแล้ว" "ซวยล่ะ เป็นตะคริว" "ยอมแพ้ดีมั้ยนะ" "นี่ก็หยุดแล้วนะ" "มันตายมั้ยไอ 3 คนนั่น"

- จากนั้นสถานการณ์ในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช อยู่ในความวุ่นวาย ผู้คนพากันหลบหนีออกมาจากห้าง และมีอีกจำนวนมากที่หนีไม่ทัน จำเป็นต้องหลบอยู่ภายในห้างเพื่อรอการช่วยเหลือ ทางตำรวจและทหารมีการสนธิกำลังกันเพื่อเร่งคลีคลายสถานการณ์ โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นนายทหารรบพิเศษที่เคยร่วมคลี่คลายคดีชิงทองที่ลพบุรี ลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกับตำรวจ

- ขณะที่ในโลกออนไลน์พากันติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด มีการแชร์ภาพและคลิปเหตุการณ์เพื่อเตือนภัย รวมทั้งสื่อต่างมีการไลฟ์บรรยากาศสดในพื้นที่ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม โดยสำนักงาน กสทช. ได้ขอความร่วมมือ 3 ข้อ ได้แก่ 1. ไม่ควรรายงานสด หรือแสดงข้อมูล กระบวนการ และรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์นี้ 2. ไม่ควรนำเสนอข้อมูลในสถานที่ที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ และ 3. ไม่นำเสนอภาพที่รุนแรง เช่น ภาพผู้เสียชีวิต ภาพการยิงอาวุธ เป็นต้น

- ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. มีรายงานว่าคนร้ายได้ขึ้นไปที่ชั้น 4 ของห้าง พร้อมจับตัวประกันไว้ 16 คน ทางการจึงส่งหน่วยคอมมานโด หน่วยหนุมานกองปราบ รวมทั้งตำรวจหน่วยนเรศวร 261 ตชด. ลงพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ก็ตามมาลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ห้ามประชาชนไม่ให้เข้าหรือออกจากห้าง

- พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวยืนยันว่าคนร้ายมีเพียงแค่คนเดียว และระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 20 ราย ซึ่งสอดคล้องกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 31 ราย โดย รมว.สธ.ได้บินด่วนมาที่ จ.นครราชสีมา เพื่อดูแลการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด

- เวลาประมาณ 22.00 น. ประชาชนที่ติดค้างและหลบซ่อนอยู่บนห้างเทอร์มินอล 21 บริเวณชั้น 4 ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบผ่านการใช้บันไดหนีไฟออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยออกมาจากชั้นที่ 1 ประมาณ 60 คน จากชั้นที่ 3 จำนวน 25 คน จากชั้นเครื่องเล่นเด็ก 60 คน โดยทั้งหมดออกมาทางประตูหนีไฟ และเจ้าหน้าที่พยายามกระชับพื้นที่บริเวณชั้น LG ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในบริเวณดังกล่าว

- ในเวลาประมาณ 01.00 น. ตำรวจควบคุมสถานการณ์ที่ชั้น G ช่วยเหลือประชาชนออกมาได้ และมีรายงานจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางมาที่ห้างเทอร์มินอล 21 เพื่อติดตามสถานการณ์ และยืนยันยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 20 คน

- หลังมีรายงานควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 01.45 น. เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำประชาชนออกมาจากห้างเทอร์มินอล 21 และชุดสุดท้ายได้รับการช่วยเหลือออกมาเมื่อเวลา 02.00 น.

- 03.00 น.เจ้าหน้าเข้าเคลียร์พื้นที่หน้าห้างเทอร์มินอล 21 แต่ในเวลา 03.15 น. สถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนานหลายนาที จากนั้นมีการนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา 4 ราย ปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ยังทำไม่สำเร็จ

- 05.00 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เดินทางออกจากบริเวณห้างเทอร์มินอล 21 โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อมาในเวลา 05.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล ระบุว่าจากเหตุปะทะเมื่อเวลา 03.30 น. มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย รวมขณะนั้นมีผู้เสียชีวิต 21 ราย บาดเจ็บ 33 ราย ตำรวจเร่งเคลียร์พื้นที่อยู่ภายใน สถานการณ์ยังคงอยู่ในความตึงเครียด

- 07.30 น. มีรายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มอีก 9 ราย นำส่ง รพ.มหาราช เวลาผ่านไปกว่า 16 ชั่วโมง แต่ปฏิบัติการยังไม่จบสิ้น

- 09.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า "ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ยุติเหตุการณ์ได้ วิสามัญ!!!" และมีรายงานข่าวตามมาว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.

- เวลาประมาณ 09.50 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันว่า คนร้ายเสียชีวิตแล้วจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในเวลาประมาณ 09.00 น. โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ประมาณ 20 ราย บาดเจ็บ 42 ราย เข้ารับการผ่าตัด 9 ราย เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ โดยส่งหน่วยอีโอดีเข้าตรวจสอบหาระเบิด

- 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บินด่วนมาถึง จ.นครราชสีมา รับฟังสรุปเหตุการณ์จาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก่อนไปเยี่ยมคนเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ รพ.ค่ายสุรนารี ในเวลา 10.30 น.

- 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงข่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยแก้ไขปัญหา เป็นความร่วมมือของทุกหน่วยอย่างแท้จริง ตามที่ให้นโยบายไป ซึ่งเป็นการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เพราะเป็นพื้นที่ปิดขนาดใหญ่ถึง 6 ชั้น รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างดีที่สุดแล้ว ยืนยันตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงโคราชอยู่ที่ 27 ราย (ประชาชนและเจ้าหน้าที่ 26 ราย, ผู้ก่อเหตุ 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 57 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 25 คน นอนรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาล 32 คน และเข้ารับการผ่าตัดอยู่ 8 คน (ต้องมีการผ่าตัดสมอง 2 คน)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook