สาธารณสุข แถลงพบผู้ติดเชื้อโคโรนาเพิ่ม 1 ราย ย้ำยังไม่ให้เรือสำราญ Westerdam เทียบท่า

สาธารณสุข แถลงพบผู้ติดเชื้อโคโรนาเพิ่ม 1 ราย ย้ำยังไม่ให้เรือสำราญ Westerdam เทียบท่า

สาธารณสุข แถลงพบผู้ติดเชื้อโคโรนาเพิ่ม 1 ราย ย้ำยังไม่ให้เรือสำราญ Westerdam เทียบท่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย โดย นพ.สุวรรณชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ในประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่มอีก 1 คน โดยเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากผู้ป่วยรายที่ 22 ซึ่งภายหลังจากที่มีการพบผู้ติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทุกรายมาสอบถามพร้อมเฝ้าติดตามระวังอาการ กระทั่งพบอาการดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุดพบยอดผู้ป่วยสะสมของประเทศไทย อยู่ที่ 33 คน จำนวนนี้รักษาหายเป็นปกติแล้ว 11 คน

โดยรายล่าสุด (รายที่ 11) อยู่ระหว่างรอผลการตรวจแล็บว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อใด ส่วนกรณีของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นวัณโรคร่วมกับป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ปัจจุบันพบว่าอาการยังคงทรงตัว และทีมแพทย์กำลังอยู่ระหว่างเฝ้าติดตาม

นอกจากนี้ นพ.สุวรรณชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ในโซเชียลมีกระแสข่าวว่า ทางการไทยได้อนุญาตให้ เรือสำราญ เวสเทอร์ดัม (Westerdam) ของบริษัท ฮอลแลนด์ อเมริกา ไลน์ สัญชาติอเมริกัน-อังกฤษ จอดเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี หลังจากถูกปฏิเสธไม่ให้จอดในหลายประเทศตั้งแต่ ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน และ ญี่ปุ่น เนื่องจากกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าข่าวที่ปรากฏออกมาไม่เป็นความจริง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้อนุญาตให้เรือดังกล่าวจอดเทียบท่าแต่อย่างใด จึงอยากขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ

แต่ทั้งนี้ แม้ว่าทางการไทยจะไม่มีคำสั่งให้เรือลำนี้จอดเทียบท่า แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าไปตรวจสอบบริเวณท่าเทียบเรือแหลมฉบังแล้ว เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมควบคุมโรคยังกล่าวถึงกรณีที่มีบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งออกมาระบุผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่าหน้ากากอนามัยขาดแคลน ว่า กรณีนี้น่าจะไม่ใช่ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน แต่เป็นการขาดชั่วคราว คือมีสิ่งของ แต่ไม่ได้มีการกระจายสิ่งของที่เหมาะสม จึงทำให้สิ่งของดังกล่าวมีไม่ทั่วถึง ซึ่งส่วนตัวมองว่าผู้ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลควรที่จะแจ้งปัญหาไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดมากกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook