ครอบครัวน้องสโนว์ อโหสิกรรมให้ "อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน" หลังศาลฎีกายืนโทษประหาร

ครอบครัวน้องสโนว์ อโหสิกรรมให้ "อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน" หลังศาลฎีกายืนโทษประหาร

ครอบครัวน้องสโนว์ อโหสิกรรมให้ "อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน" หลังศาลฎีกายืนโทษประหาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท ในคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยทำร้าย น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ "น้องสโนว์" ซึ่งครอบครัวพลประสิทธ์ได้เข้ารับฟังคำตัดสินเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 94 บ้านโนนเมือง ม.12 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าให้กำลังใจนายกฤษณ์ และนางลำใย พลประสิทธิ์ พ่อ-แม่  และนางสาวภัทรานิษฐ์ พลประสิทธิ์ พี่สาวน้องสโนว์ พร้อมทั้งเตรียมเสนอเรื่องผลสอบวินัยร้ายแรงไปยังผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้พิจารณาลงนามคำสั่งไล่นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถานออกจากตำแหน่ง หลังศาลฎีกามีคำตัดสินยืนโทษประหารชีวิต ซึ่งถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยยังมีญาติและเพื่อนบ้านต่างมาให้กำลังใจด้วย

นายสัมฤทธิ์ กิตติโชต สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวทางอำเภอกมลาไสยได้มีคำสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หลังจากถูกจับกุมตั้งแต่หลังเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2559  พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว ซึ่งผลการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ผ่านมาคณะกรรมการยังคงรอผลการตัดสินของศาลฎีกา จึงยังไม่สามารถสรุปเรื่องได้ เพราะยังไม่สิ้นสุดคดีความ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน

นายสัมฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่าศาลฎีกามีคำตัดสินลงโทษประหารชีวิต และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท ซึ่งถือว่าในทางคดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ดังนั้นทางอำเภอกมลไสยจึงได้ประสานประสาน เพื่อขอคัดลอกคำพิพากษา เพื่อที่จะรายงานผลไปยังผู้สั่งตั้งคณะกรรการสอบสวนวินัยร้ายแรงคือผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อพิจารณาลงนามคำสั่งไล่ออกจากตำแหน่งโดยเร็วที่สุด โดยคำสั่งไล่ออกจะมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งไม่ทำให้ราชการเสียหาย เนื่องจากช่วงระหว่างที่รอผลพิจารณาคดีทั้ง 3 ศาล ได้มีการแต่งตั้งกำนันตำบลดงลิง ทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน และได้ทำหน้าที่อย่างดี ตลอดจนทางราชการก็ไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้กับนายกฤติเดช ทั้งนี้หากคำสั่งมีผลไล่ออก จะมีการประกาศเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่ตามระเบียบขั้นตอนต่อไป

ด้าน นางสาวภัทรานิษฐ์ พลประสิทธิ์ พี่สาวน้องสโนว์  กล่าวว่า หลังเกิดเหตุความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวพลประสิทธิ์ โดยน้องสโนว์เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานมัดตัวคนร้าย ทางครอบครัวได้มาขอพึ่งบุญญาบารมีเจ้าปู่ฟ้าระงึม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตำบล และเป็นสถานที่เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านผู้เดือดร้อนมาหลายชั่วอายุ  ทั้งนี้ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่พบเบาะแสคนร้าย และจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

นางสาวภัทรานิษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพิพากษาของศาลฎีกา ได้ตัดสินยืนตามคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว ตนและพ่อแม่ พร้อมญาติพี่น้องบอกกล่าวต่อวิญญาณของน้องสโนว์ด้วย ว่าน้องได้รับความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งทางครอบครัวก็ขออโหสิกรรมคนร้าย เพราะไม่อยากให้มีเวรมีกรรมต่อกันและกันอีก ซึ่งต่อไปนี้ครอบครัวของเราก็จะตั้งใจทำมาหากินอย่างเต็มที่ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ได้รับโทษตามที่ก่อไว้

ทั้งนี้นอกจากครอบครัวจะขอบทุกทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจมาโดยตลอดแล้วจะต้องขอคุณ นายณรงค์ฤทธิ์ จำปาทอง ทนายความคดีน้องสโนว์ที่รับดำเนินการเรื่องให้ครอบครัวฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องเงินทดแทนสินไหมตามคำสั่งศาลนั้น ที่ผ่านมาครอบครัวไม่ได้ติดตามและหวังเงินในส่วนนี้ เพียงแต่ขอความเป็นธรรมให้น้องสาวเท่านั้นพอ และก็ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook