อดีตแม่ผัวแค้น ถูกสะใภ้ทวงเงิน คว้ากระติกใส่ปัสสาวะสาด ควงดาบซามูไรฟันร้านพังยับ

อดีตแม่ผัวแค้น ถูกสะใภ้ทวงเงิน คว้ากระติกใส่ปัสสาวะสาด ควงดาบซามูไรฟันร้านพังยับ

อดีตแม่ผัวแค้น ถูกสะใภ้ทวงเงิน คว้ากระติกใส่ปัสสาวะสาด ควงดาบซามูไรฟันร้านพังยับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ทิพวิมล อายุ 25 ปี ว่าตนเองได้ถูกอดีตแม่สามีเดินเข้ามาด่าทอจนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่เดินกลับไปคว้ากระติกใส่ปัสสาวะ มาสาดหน้าร้าน  พร้อมคว้ามีดซามูไร จากในรถยนต์ออกมาฟันตู้ขายลูกชิ้น เครื่องทำน้ำแข็งใส จนพังเสียหาย   เหตุเกิดหน้าบ้านในตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.)

สอบถามนายสวัสดิ 60 ปี พ่อของผู้เสียหาย กล่าวว่า ปกติแล้วผู้ก่อเหตุ เป็นอดีตแม่สามีชื่อ น.ส.วรรณเพ็ญ อายุ 50 ปี  โดยลูกสาวของตนแต่งงานกับลูกชายผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายวิโรจน์ อายุ 30 ปี อยู่กินกับลูกสาวตนเองมานานหลายปี จนกระทั่งเมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาครอบครองยาบ้า หลังจากนั้นลูกสาวตน ก็เริ่มมีปากเสียงกับอดีตแม่สามี ถึงเรื่องการทวงถามสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 1 บาทและเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ที่อดีตแม่สามียืมไป

ล่าสุดก่อนเกิดเหตุ อดีตแม่สามี ก็ได้เดินทางมาที่ร้าน    และมีปากเสียงกับลูกสาวตนอย่างรุนแรง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุหยิบกระติกใส่น้ำปัสสาวะออกมาสาดใส่หน้าร้าน ก่อนที่จะคว้าอาวุธมีดซามูไร ออกมาฟันตู้ใส่ลูกชิ้น เครื่องทำน้ำแข็งใส จนพังเสียหาย และเผ่นหนีไปอย่างรวดเร็ว

สอบถาม น.ส.ทิพวิมล กล่าวอีกว่า สำหรับสำหรับเงินที่ อดีตแม่สามีมายืมตนเองไปประมาณ 25,000 บาท และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 ซึ่งตนเองก็ยอมให้ยืม แต่เมื่อตนเองไปทวงถามเงินที่อดีตแม่สามียืมไป กลับถูกบ่ายเบี่ยง จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตามตนเองได้หลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ และภาพถ่ายที่เกิดเหตุ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เพื่อเป็นหลักฐาน ในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์และได้ให้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และจะมีการเรียกตัวคู่กรณีทั้งคู่มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook