ชาวราชบุรีร่วมอาลัย พระราชทานเพลิงศพ "พีรพัฒน์ พละสาร" หนุ่มวิศวกรเหยื่อกราดยิงโคราช

พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ นายพีรพัฒน์ พละสาร วิศวกรโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – ลาว หนึ่งในเหยื่อกราดยิงโคราช ที่วัดช่องลม พระอารามหลวง จังหวัดราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ เมรุวัดวัดช่องลม พระอารามหลวง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ นายพีรพัฒน์ พละสาร อายุ 27 ปี เป็นกรณีพิเศษ

โดยมี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ญาติ และประชาชนชาวจังหวัดราชบุรี เดินทางมาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยผู้ตายถูกผู้ก่อเหตุกราดยิงโคราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิตคาที่บริเวณที่นั่งคนขับ ขณะเดินทางผ่านห้างสรรพสินค้าเทอร์มินัล 21 สาขานครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

บรรยากาศในพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นไปอย่างเศร้าโศก มีเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนร่วมงาน และชาวจังหวัดราชบุรี เข้าร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย กว่า 1,000 คน

• แม่ร้องแทบขาดใจ ทำพิธีเชิญวิญญาณหนุ่มปาเจโร่เหยื่อกราดยิงโคราช
• องคมนตรีอัญเชิญพวงมาลาหลวงวางหน้าหีบศพ "พีรพัฒน์ พละสาร" วิศวกรเหยื่อกราดยิง

สำหรับ นายพีรพัฒน์ พละสาร อายุ 27 ปี เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2536 เป็นบุตรชาย คนที่ 2 จากพี่น้อง 3 คน ของ พ.ต.อ.วิฑูรย์ พละสาร อดีตผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 6 กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 (ผกก.ฝอ. 6 บก.อก.ภ. 7) กับ นางวรรณิชา พละสาร

นายพีรพัฒน์ เคยศึกษาที่เบญจมราชูทิศ ราชบุรี และ เคยศึกษา วิศวกรรมสํารวจและสารสนเทศภูมิศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนการทำงาน เริ่มการทำงานที่ บริษัท ซีวิล เอนจีเนียริง จำกัด และ ก่อนเสียชีวิตเป็นวิศวกร อยู่ที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย- ลาว โคราช จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ ช่วงเกิดเหตุ นายพีรพัฒน์ พละสาร ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ ผ่านหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 เพื่อที่จะไปซื้อสิ่งของกับเพื่อน รวม 4 คน และนายพีรพัฒน์ เป็นคนขับรถถูก จ.ส.อ. ทหารหน่วยกองพันสรรพาวุธ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา กราดยิงจนกระสุนทะลุท้ายทอยเสียชีวิตคาที่

ภายหลังเสียชีวิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับศพไว้ในพระราชานุเคราะห์โดยตลอด ทรงพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พระราชทานพวงมาลา และพวงมาลาจากพระบรมวงศ์ ทั้ง 12 พระองค์ วางหน้าหีบศพ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้