วิเคราะห์ประมูล 5G ทรูเตรียมตัวมาดี ชนะตามคาด กับยุทธศาสตร์ตัวเบา
หากเทียบการประมูล 3G, 4G และ 5G จะพบว่า ขาประจำที่ประมูลไม่เคยแพ้และมีประสบการณ์สูง คือ กลุ่มทรู ซึ่งในอดีตทรูใช้วิธีการ "สู้สุดใจ เพื่อใบอนุญาต" ทำให้ทรูกวาดคลื่นมาตุนไว้เกือบทุกย่านคลื่น ทำให้กลุ่มทรูมีประสบการณ์สูงในการประมูล
แต่ในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ทรูวางแผนมาดีมาก เพราะมาในยุทธศาสตร์ตัวเบา เอาชัยชนะ ในราคาคุ้มค่า สบายตัว
การประมูลยกที่1 : คลื่น 700 MHz ที่มีใบอนุญาต3 ใบ ใบละ 5 MHz
งานนี้ทุกคนรู้ดีว่า CAT อยากได้คลื่น 700 MHz ในขณะที่ True AIS และ dtac มีคลื่นนี้อยู่แล้ว ทำให้การกดประมูลนั้น ค่อยๆ ไล่ราคาขึ้นไปจนสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งผลสุดท้าย AIS ได้รับใบอนุญาต 5GHz ไป 1 ใบ และ CAT Telecom ได้รับใบอนุญาต 2 ใบ รวม10 GHZ มูลค่า 51,460 ล้านบาท ทำให้ AIS และ CAT เปลืองกระสุนไปกับคลื่น 700 MHz ซึ่งเป็นเพียงส่วนขยายคลื่นเดิมที่ไม่ได้เอามาทำ 5G แถมผลออกมาได้ 700 MHz ที่แพงเป็น 2 เท่าของราคาคลื่นย่านนี้ และมีเพียงทรูที่ยังไม่เสียกระสุนเงินลงทุน พร้อมเข้าประมูลคลื่น 5G 2600 MHz แบบพร้อมที่สุด
ทรูเหนือเมฆเอาคลื่น 2600 MHz เลือก 9 ใบ เพื่อจบศึกแค่ 2 คลิ๊ก
คลื่นความถี่ 2600 MHz เป็นคลื่นความถี่หลักที่หลายประเทศนำมาใช้ทำ 5G อย่างที่รู้กันว่าคลื่น 2600 MHz นั้น มีมาประมูลทั้งสิ้น 19 ใบ แต่มีคนเข้าประมูล 3 รายคือ True, AIS และ CAT ซึ่งหากจะทำ 5G ได้ต้องมีคลื่น 7 ใบขึ้นไป ทำให้หาร 3 ไม่ลงตัว เพราะถ้าทุกรายได้ต้อง 7 คูณ 3 ราย คือต้องมี 21 ใบอนุญาต แต่ในการประมูลครั้งนี้มีแค่ 19 ใบ ดังนั้น ผู้ชนะจะได้ 10 ใบอนุญาต และผู้ชนะอีกรายได้ 9 ใบอนุญาต ดังนั้น หาก True กับ AIS ดึงดันกดที่10 ใบ จะเสียเงินสู้กันไปรอบละ 3000 ล้านบาท แต่เมื่อทรูมาด้วยกลยุทธ์ตัวเบาเลือกกดที่ 9 ใบแต่แรก ทำให้การประมูลคลื่น 900 MHz จบเร็ว ผลคือ AIS ได้ใบอนุญาตไป 10 ใบ และ Truemove H ได้ไป 9 ใบด้วยกัน รวมทั้งหมด 19 ใบอนุญาต มูลค่ารวมกว่า 37,434 ล้านบาท โดย True เป็นผู้ชนะร่วมกับ AIS ไปตั้งแต่การกดประมูลครั้งที่ 2 และจำนวนคลื่นที่ใช้ทำ 5G ก็ใช้เพียง 7 ใบ ก็เพียงพอ แต่ครั้งนี้ผู้ชนะได้เผื่อคลื่นกันมาอีก 2-3 ใบ ซึ่งมากเกินพอในการทำ 5G ในประเทศไทย
ทรู ได้ 5G เหมือนเสือติดปีก
หากดูประสบการณ์ในการทำตลาด ลูกค้าใช้งานดาต้า และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเฉพาะ 4G ทางทรูจะมีประสบการณ์และยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ซึ่งเอไอเอสมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในภาพรวม แต่เป็นลูกค้า 2G, 3G และกลุ่มที่ยังไม่ใช่ Smartphone ในขณะที่ทรูบุกเบิกสมาร์ทโฟนมาพร้อมกับแอปเปิล ทำให้หมวดลูกค้า 4G นั้น ทรูเป็นเจ้าตลาด เมื่อกลุ่มทรูคว้าใบอนุญาตคลื่น 5G พร้อมเดินหน้า 5G รายแรกทันที กับระบบที่เตรียมพร้อมไว้แล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แค่กดสวิทช์คนไทยก็พร้อมใช้ 5G ทันที ในขณะที่ AIS ถูก CAT ลากไปประมูลคลื่น 700 MHz ได้ไป 5MHz ราคาสูงสุดในประวัติการณ์แบบต้นทุนสูง ในขณะที่ ทรู และดีแทค อดีตประมูลคลื่น 700 MHz ได้มา 10 MHz ในราคาเพียงครึ่งเดียว ทำให้ครั้งนี้กลุ่มทรูตัวเบาได้ 5G ไปติดปีก ในราคาคุ้มค่าแบบผู้ถือหุ้นสบายใจ
คลื่น 26 GHz วิกฤตศรัทธาดีแทค
สำหรับย่านสุดท้ายที่นำออกมาประมูล ต้องถือว่าเป็นย่านที่ยังใช้อะไรไม่ได้ใน 2-3 ปีนี้ เท่ากับว่าประมูลไปก็เอาไปใส่ตู้ไว้ ทำให้ทุกโอเปอร์เรเตอร์เข้ามากดประมูลดูใจดีแทค ว่าสัญญาว่า จะไม่หยุดลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยหรือไม่ เพราะซีอีโอดีแทคนำทีมมาเอง พร้อมลั่นสู้ตาย ทำเอาผิดคาด เมื่อผลออกมาจบรอบแรก นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ เคาะประมูลจำนวน 27 ใบๆ ละ 100 MHz ดีแทคได้คลื่น 26 GHz ไปเพียง 2 ใบ ในขณะที่ TOT ยังได้มากกว่าที่ 4 ใบอนุญาต คำถามคือ ดีแทคจะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคอย่างไร ในเมื่อตัดสินใจไม่ไปต่อ!!
ผู้ชนะที่แท้จริงคือคนไทย
อย่างไรก็ตาม หลังจากการประมูลครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่า เงินลงทุนจากภาคเอกชนนับแสนล้านบาทจะได้นำมาพัฒนาประเทศ ขอบคุณโอเปอร์เรเตอร์ทุกรายที่มีความจริงใจ นำเงินมาลงทุนในประเทศไทยเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร และประเทศจะพร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอาเซียน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่พร้อมที่สุด ในขณะที่ กสทช. ประเมินว่า หลังจากที่มีการประมูลเสร็จ จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2563 ประมาณ 177,039 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1.02% ของ GDP ในปี 2563
สำหรับในปี 2564 คาดว่าจะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขั้นต่ำประมาณ 332,619 ล้านบาท และในปี 2565 จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประมาณ 476,062 ล้านบาท งานนี้ประเทศไทยจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นผู้นำในภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน