ตาสุดทน แจ้งความผอ.โรงเรียน ตีหลานชาย 10 ขวบหัวแตก ขู่ตีให้ตาย-กินตับแกล้มเหล้า

ตาสุดทน แจ้งความผอ.โรงเรียน ตีหลานชาย 10 ขวบหัวแตก ขู่ตีให้ตาย-กินตับแกล้มเหล้า

ตาสุดทน แจ้งความผอ.โรงเรียน ตีหลานชาย 10 ขวบหัวแตก ขู่ตีให้ตาย-กินตับแกล้มเหล้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงานว่า นายสุพล อายุ 83ปี ตาของ ด.ช. วัย 10 ขวบ เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวนเวร สภ.สนม จ.สุรินทร์ หลังจากที่ถูก ผอ.โรงเรียน เรียกไปที่ห้อง ก่อนใช้ไม้ระแนงตีหลายครั้งที่หลังศีรษะ และแขน เป็นเหตุศีรษะแตก แผลยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และมีรอยช้ำหลายแห่ง

สืบเนื่องจากเหตุดังกล่าว วานนี้(17 ก.พ.63) เจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาคณะกรรมการโรงเรียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประชุมกันภายในโรงเรียนดังกล่าว จากการที่ได้พูดคุยกันในห้องประชุมโดยมี ผอ.โรงเรียน ที่ถูกกล่าวหา เข้าฟังด้วย และยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริงตามที่ผู้ร้องเรียนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สนม

ด้านนาย สุพล ตาของเด็ก บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในยุคนี้ ลูกหลานของตน ไม่เคยลงไม้ลงมือตีถึงขั้นหัวร้างข้างแตก มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนเองคงจะต้องพิจารณาหาที่เรียนให้กับหลานตัวเองใหม่

ทางด้าน ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ยอมรับที่ได้ลงไม้ลงมือไปตีเด็กเพราะตนเองทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเด็กชาย ซึ่งเป็นเด็กดื้อ แต่ละวันจะต้องก่อเรื่องเดือดร้อนไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ครั้ง บางครั้งตนเองโมโหถึงต้องบอกไปว่า ดื้อแบบนี้ต้องตีให้ตาย พร้อมกับนำตับไปแกล้มเหล้า ซึ่งตนเองได้พูดออกไปจริงจนกระทั่งเด็กไม่กล้ามาโรงเรียนถึง 3 วันเลยทีเดียว

ทางด้าน นางณัฐสุรีย์ อนุศาสนัน จนท.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สุรินทร์ ได้เดินทางเข้ามาสอบถามกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนประกอบกับเด็กที่กำลังเรียน แม้จะดื้อหรือซน ก็ควรหาทางออกที่ดีกว่านี้หากว่าเด็กต้องการเรียนด้านการกีฬา ก็ควรจะนำเข้าไปศึกษากับโรงเรียนที่เด็กถนัด ในวิชาที่ชอบ ปัญหาที่เกิดขึ้นทางผู้ปกครองควรเข้าใจกับกับปัญหาของลูกหลานของตนเองและเอาใจใส่ในการเรียนมากกว่านี้ แต่ที่ตนเองพร้อมคณะที่เดินทางมาวันนี้ก็อยากให้ทั้งฝ่ายผู้ปกครองและครูได้ทำความเข้าใจกันและให้อภัยกันส่วนในเรื่องของคดีนั้นก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเป็นขั้นตอนของกฎหมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook