ธนาธร ตัดพ้อคดีอนาคตใหม่กู้เงิน โปร่งใสมากก็โดนสกัด ประเทศไทยจะเอาแบบนี้หรือ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) ตัดพ้อว่า การที่ตนตั้งใจทำพรรคให้โปร่งใส และเปิดเผยว่า พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจากตนมูลค่ารวมราว 191 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินการพรรค ทำไมจึงกลายเป็นหอกมาทิ่มแทงตนและพรรคเสียเอง หรือที่จริงแล้วประเทศไทยไม่ต้องการพรรคการเมืองที่โปร่งใส

"เหตุใดที่การกระทำแบบนี้กลับกลายเป็นดาบหอกทิ่มเราเสียเอง ทำให้เราต้องเผชิญกับความเสี่ยงยุบพรรค, ตัดสิทธิ์กรรมการบริหาร และติดคุกติดตารางเพราะความต้องการสร้างพรรคการเมืองแบบใหม่ที่ซื่อสัตย์, เจตนาดี และโปร่งใสอย่างนี้หรือ? เรากลายเหมือนผู้ร้าย ไม่รอบคอบ และตั้งใจบิดเบือนกฎหมาย เราไม่ได้รับแม้แต่สิทธิในการพิจารณาคดีอย่างถูกต้อง และสิทธิในการสู้คดีอย่างที่พลเมืองในสังคมที่มีนิติรัฐ นิติธรรมควรจะได้รับ" นายธนาธร โพสต์

ลั่นตั้งใจเปิดเผย แต่ถูกบิดเบือน-ร้องเรียน

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อตนไปพูดให้กับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย ฟังว่า ตนให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน เพื่อมาดำเนินการพรรค เพราะไม่อยากให้พรรคนี้รับเงินจากกลุ่มทุน และสุดท้ายจะต้องทำงานเพื่อรับใช้กลุ่มทุน ไม่ใช่ประชาชน

นายธนาธร ระบุอีกว่า การที่ตนพูดเช่นนั้นออกไป ทำให้นักร้องเรียนรายหนึ่งนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และภายหลังก็พบว่า กกต. มีมติส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งคำวินิจฉัยคดีนี้มีกำหนดอ่านในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.)

เงินกู้คือหนี้สิน ไม่ใช่เงินบริจาค

คำร้องของ กกต. ระบุว่า เงินกู้มูลค่าประมาณ 191 ล้านบาทดังกล่าวนั้น เป็นเงินบริจาค! ซึ่งผิดจากที่กฎหมายกำหนดไม่ให้พรรคการเมืองรับบริจาคจากใครคนใดคนหนึ่งเกิน 10 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และเลขาธิการพรรค แย้งหลายครั้งว่า เงินกู้เป็นเงินที่พรรคอนาคตใหม่ต้องชดใช้ให้แก่นายธนาธร ทั้งยังมีสัญญากู้ยืมอย่างชัดเจน และที่ผ่านมาก็มีการใช้คืนไปแล้วบางส่วน ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นรายได้ของพรรค และยิ่งถือว่าเป็นเงินบริจาคไม่ได้ เพราะไม่ใช่เงินที่ได้มาเปล่าเลยสักนิด

ไม่ใช่แค่นั้น นายธนาธร ยังเคยกล่าวถึงประเด็นนี้ในรายการให้ความรู้ของพรรคอนาคตใหม่ตอนหนึ่ง ที่ระบุว่า เงินกู้ = หนี้สิน แต่ถ้าเงินกู้นับเป็นรายได้แล้ว จะผิดหลักการทางบัญชีทันที