ยุบพรรคอนาคตใหม่! ศาลรัฐธรรมนูญลั่นเงินกู้เปิดช่องครอบงำ ตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ (21 ก.พ.) ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการกู้เงินมูลค่าประมาณ 191 ล้านบาท จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค
เหตุผลของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า แม้กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองไม่ได้ระบุว่าห้ามกู้เงิน แม้ไม่ใช่รายได้ แต่ก็ถือเป็น "รายรับทางการเมือง" และการกู้เงินผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะกฎหมายเขียนไว้เพื่อห้ามไม่ให้พรรคการเมืองถูกครอบงำโดยบุคคลคนใดคนหนึ่ง"
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญบอกอีกว่า พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน ดังนั้นจึงห้ามหารายได้จากทางที่กฎหมายไม่ได้กำหนด
ที่ผ่านมา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แย้งจุดนี้มาตลอดว่า พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน จึงมีสิทธิ์กู้เงินได้ เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดห้ามไว้
สัญญาเงินกู้ผิดวิสัยการค้า
ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยต่อไปว่า สัญญากู้ยืมเงินของพรรคอนาคตใหม่ต่อนายธนาธรผิดปกติวิสัยทางการค้า โดยสัญญาฉบับหนึ่งกำหนดว่า คิดดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี แต่กลับกำหนดค่าปรับหากผิดนัดชำระหนี้ไว้เพียง 100 บาทต่อวัน และมีลักษณะเป็นการให้ "ประโยชน์อื่นใด" ต่อพรรคการเมือง
ทั้งยังพบว่ามีการคืนเงินกันอย่างรวดเร็วภายใน 2 วัน ก็ยิ่งทำให้สงสัยได้ว่าผิดวิสัยทางการค้าด้วย
สัญญาฉบับที่ 2 ก็ทำขึ้นหลังจากมีหนี้สินจากสัญญากู้ยืมฉบับแรก นอกจากนี้สัญญาเหล่านี้ยังไม่มีหลักประกันใดๆ
ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารปัจจุบัน-อดีต 10 ปี
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเป็นระยะเวลา 10 ปี เพราะเห็นว่าโทษนี้ร้ายแรงและพรรคอนาคตใหม่ส่อให้เห็นเจตนาเลี่ยงกฎหมายที่ห้ามให้รับบริจาคเกิน 10 ล้านบาท
ไม่ใช่แค่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองระยะเวลา 10 ปี เช่นกัน