เปิดก่อนได้เปรียบ! "ช่อ" ซักฟอกนอกสภา แฉ "บิ๊กตู่" เอี่ยวคดี "1MDB" ให้ที่พักพิง "โจ โล"

เปิดก่อนได้เปรียบ! "ช่อ" ซักฟอกนอกสภา แฉ "บิ๊กตู่" เอี่ยวคดี "1MDB" ให้ที่พักพิง "โจ โล"

เปิดก่อนได้เปรียบ! "ช่อ" ซักฟอกนอกสภา แฉ "บิ๊กตู่" เอี่ยวคดี "1MDB" ให้ที่พักพิง "โจ โล"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี มีการจัดงานเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา "ฉาวระดับอินเตอร์เนชันแนล" โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โดยมีผู้สนับสนุนเข้าร่วมงานกว่า 500 คน ทั้งนี้ยังมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ร่วมรับฟังการอภิปรายด้วย

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา กระทำการตั้งแต่ปี 2558-2563 เกี่ยวข้องกับคดี 1MDB ที่เป็นเรื่องอื้อฉาวทางการเงินระดับโลก โดยเป็น"พันธมิตรมืด" กับนานาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย 4 ประการ คือ 

1.ปกปิดข้อเท็จจริงกรณีอาชญากรรมการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการรับรู้ของประชาชนทั้งคนมาเลเซีย คนไทย และประชาคมโลก

2.บิดผันกระบวนการยุติธรรม เอาคนบริสุทธิ์เข้าคุก และปล่อยให้อาชญากรข้ามชาติลอยนวล

3.​ ให้ที่พักพิง หลบซ่อนตัวแก่ผู้ต้องหาที่มีหมายแดงจากอินตอร์โพล หรือตำรวจสกล ที่เงินที่ต้องการตัวในหลายประเทศ

และ 4. บ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีกับชาติพันธมิตรของไทย

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า คดีนี้เริ่มจากที่นายราจิบ ก่อตั้งกองทุนแห่งรัฐขึ้น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวในหลายด้าน แต่ขาดทุนต่อเนื่องจนมีหนี้สะสมกว่า 3.7 แสนล้านบาทภายใน 6 ปี โดยสื่อต่างประเทศหลายสำนักได้ตีแผ่ข้อมูลว่า เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐประเทศมาเลเซีย หรือ "1MDB" หายเข้าสู่ระบบการเงินโลกอย่างมีเงื่อนงำ ขณะที่อัยการสหรัฐฯ และมาเลเซีย ระบุว่าเงินดังกล่าวไหลเข้าสู่กระเป๋าของผู้ทรงอิทธิพลเพียงไม่กี่คน ทำให้มีอย่างน้อย 10 ประเทศเดินหน้าสอบสวนเรื่องนี้ ตั้งแต่ประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย ไปจนถึง อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์

อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีหลายคนถูกออกหมายแดง (Red Notice) โดยอินเตอร์โพล รวมถึง นายโลว เตี้ยก โจว หรือ "โจ โล" นักธุรกิจที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมวางแผนในการฟอกเงินและคนสนิทในเครือข่ายโดยตำรวจไทย ร่วมมือกับคนของบริษัท เปโตรซาอุดี จากการจับกุมนายซาเบียร์ ฆุสโต ผู้เปิดโปงข้อมูลการทุจริตดังกล่าว ด้วยข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์และกดดันนายฆุสโต ให้ยอมรับสารภาพความเท็จ ว่าเขากุเรื่อง 1MDB ขึ้น เพื่อใส่ร้ายนาจิบ

แม้ตำรวจกองปราบปราม ยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับนานาชาติ สอบสวนนายฆุสโต แต่เอฟบีไอก็ถูกปฏิเสธคำขอเข้าสอบสวนทุกครั้ง แต่อำนวยความสะดวกให้ตัวแทนบริษัทเปตรซาอุดี นอกจากนี้ นายฆุสโต ยังไม่ได้ถูกโอนตัวกลับไปรับโทษที่สวิตเซอร์แลนต์ตามที่ควรจะเป็น และนายฆุสโต พันโทษ ยังถูกห้ามเข้าประเทศไทยถึง 100 ปี

ส่วนกรณีจอง "โจ โล" คนสนิทของนายราจิบ เข้าออกเมืองไทยหลายครั้ง และรัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธการขอเข้าประเทศของบุคคลที่มีหมายแดง นำมาสู่คำถามว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จงใจให้ที่พักพิงแก่ผู้เป็นที่ต้องการตัวของรัฐบาลเพื่อนบ้านหรือไม่ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สอบสวนความเชื่อมโยงกับ

เครือข่าย 1MDB และ "โจ โล" โดยมีนักธุรกิจชาวไทย ชื่อย่อ "พ.พาน" คอยอำนวยความสะดวก กับ "โจโล" ซึ่งนาย พ.พานคนนี้ มีความใกล้ชิดกับตำรวจและได้รับสัมปทานโครงการของตำรวจมากกว่า 1 โครงการ 

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นชนวนเหตุให้ประชาชนมาเลเซีย ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงการเมืองครั้งประวัติศาสตร์มาแล้ว จึงหวังว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกันในประเทศไทยในยุคที่มืดที่สุด โดยประชาชนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อเท็จจริงกับสังคม และแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธการต้องรับผิดชอบในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจที่สามารถสั่งการหรืออยู่เหนือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ เรื่องอื้อฉาวระดับโลกดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook