พันธมิตรปักใจ บิ๊กป. บงการสังหารสนธิ

เผยใช้เครือข่ายพันเอก "ส" บวก "ดีเอสไอ" ทั้งเขียว-กากีประกบสังหารเหลือง เผย "สนธิ" รู้ตลอด ขบวนการตัดตอน ทั้งขู่ทั้งกดดันสารพัด เชื่อหนอนบ่อนไส้โคตรใหญ่ จี้ "มาร์ค" คุมเกมด้วยตนเองป้องกันแทรกแซง

ยังคงเป็นคดีที่ร้อนระอุขึ้นทุกเมื่อ สำหรับการขุดคุ้ยหาตัวผู้บงการในคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ล่าสุดคณะทำงานชุดคลี่คลายดดีสนธิกำลังนับร้อยบุกโรงงานไม้หอมใน จ.ตราด ของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. และนางอรทัย ฐานะจาโร ลูกสะใภ้ เพื่อตรวจค้นจับกุม จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับคดีดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์บุกค้นในครั้งนี้ก่อให้เกิดกระแสพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนสีเขียวมากขึ้น

พธม.เชื่อหนอนบ่อนไส้โคตรใหญ่

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงเรื่องที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดคดีลอบยิงนายสนธิ ออกมาระบุมีตำรวจหนอนบ่อนไส้และไส้ศึกว่า คดีที่มีนายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุม แต่กลับถูกแทรกแซง ข่มขู่ คุกคาม แสดงว่าผู้ที่กระทำได้ต้องอยู่ระดับสูงกว่า รอง ผบ.ตร.และอยู่ในสำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงอยากถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ว่าใครเป็นหนอนบ่อนไส้ หรือใครเป็นคนที่คอยแทรกแซงคดี ทั้งนี้หาก พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่รู้ว่าคนดังกล่าวเป็นใคร หรือไม่หาทางแก้ไขก็ต้องพิจารณาตัวเอง เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาที่ไม่สามารถปกป้องการทำคดีให้มีความตรงไปตรงมาได้

อย่างไรก็ตามหากฟังคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ธานี ที่บอกว่าไม่ใช่พนักงานสอบสวนก็เท่ากับส่งสัญญาณไปยังกองบัญชาตำรวจนครบาล (บช.น) ซึ่งต้องทำหน้าที่พนักงานสอบสวนว่าเหตุใดการทำงานถึงไม่คืบหน้า ดังนั้นจึงขอถาม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครนบาล (ผบช.น.) และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผช.ตร.) ว่าจริงหรือไม่

"คนที่อยู่เบื้องหลังการยิงนายสนธิ ต้องเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก สังเกตได้จากเหตุการณ์ 3 กรณี คือ 1.เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่กรุงเทพฯ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2.การปฏิบัติการเป็นความร่วมมือระหว่างทหารกับตำรวจ และ 3.สามารถแทรกแซง คุกคามคดีที่อยู่ในมือของคนระดับรอง ผบ.ตร.ได้ ดังนั้นการจะคลี่คลายคดีนี้ได้มีอยู่ทางเดียวคือนายกรัฐมนตรีต้องเข้าไปควบคุมอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองเพื่อป้องกันการแทรกแซง" โฆษกพันธมิตร กล่าว

ปักใจ "บิ๊ก ป." คนบงการสูงสุด

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ข่าวมาว่าคนที่อยู่ในระดับปฏิบัติการโทรศัพท์ไปยังบุคคลคนหนึ่งที่มีตำแหน่งระดับสูงในการบริหารราชการแผ่นดิน และเชื่อว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายกฯ ทราบแล้ว ในส่วนของพันธมิตรกำลังรอว่านายกฯ จะตัดสินใจอย่างไร แต่ยืนยันว่า คนที่โทรศัพท์ไม่ใช่ 2 ผู้ต้องหาที่ตามล่าตัวอยู่ขณะนี้ เพราะทั้ง 2 คนถือว่าเล็กมากอยู่ท้ายของขบวนการ เพราะงานนี้ระดับผู้สั่งการของ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา คือนายทหารยศ พันเอก ชื่อย่อ "ส." รับคำสั่งมาจาก "บิ๊ก ป." ที่มีสายสัมพันธ์ทั้งทางการเมือง ทหาร และตำรวจ

"การก่อเหตุครั้งนี้ พันเอก ส. กลัวว่าข่าวจะรั่ว จึงจำกัดบุคคลที่จะรับรู้ขบวนการนี้ จึงขอให้เพื่อนเตรียมทหารรุ่นเดียวกันซึ่งเป็นตำรวจในดีเอสไอส่งตำรวจมาช่วยทำงานในด้านการสื่อสาร หลังจากปฏิบัติแล้วยังมีข่าวด้วยว่า พันเอก ส. ได้โทรศัพท์กลับไปรายงานบิ๊ก ป.ด้วย ที่ผานมามีคนพยายามตัดตอนคดีนี้ตลอด อย่างน้อยก็มี 3 ครั้งที่ได้รับกระแสข่าว คือ 1.มีนายทหารระดับสูงคนหนึ่งเรียกตำรวจไปข่มขู่ และเรียกร้องให้ทำลายหลักฐาน ทั้งที่นายตำรวจคนนั้นตั้งใจทำงาน แต่หลังจากโดนขู่ข่าวของตำรวจคนนี้เงียบหายไปทันที 2.มีการส่งนายพลตำรวจ ตัดตอนชุดสืบสวนโดยระบุว่า หากเดินหน้าทำคดีจะไม่ขึ้นเป็นนายพล 3.มีความพยายามทำลายหลักฐานที่สำคัญ ผมเชื่อว่านายกฯ จะรู้ดี เพราะเรื่องนี้แม้แต่นายสนธิยังรู้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายกฯ จะไม่รู้" นายปานเทพ กล่าว