คุมตัว 3 มือฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาทำแผน ตำรวจพบ กระดูก-แหวน จุดเผานั่งยาง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามร่างของ นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 67 ปี พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ถูกอุ้มฆ่า ทางเจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่รกร้างใน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังมีหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ให้ข้อมูลว่าได้มีการนำเอาร่างของผู้ตายไปจุดไฟเผานั่งยางในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อเวลา 20.30 น. (24 ก.พ.63) เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในสภาพเป็นพื้นที่รกร้าง ห่างไกลจากชุมชน และพบว่ามีร่องรอยการจุดกองไฟเผา ซึ่งในจุดนี้พบเศษซากกระดูกจำนวนหนึ่งที่ถูกไฟเผา รวมถึงแหวน และเศษซากที่จุดไฟเผายังไม่หมดอีกบางส่วน จึงเก็บเศษซากทั้งหมดที่พบเจอในจุดดังกล่าวไปตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่า เป็นของนายวีรชัยหรือไม่ และจะได้มีการสอบถามข้อมูลถึงความเชื่อมโยงถึงจุดการเผาจุดนี้ และจุดเผาในพื้นที่ อ.ตาคลี รวมถึง จุดที่มีการนำซากโครงกระดูกไปทิ้งที่แม่น้ำ
- ด่วน! จับ "บรรยิน ตั้งภากรณ์" อดีต รมช.พาณิชย์ เอี่ยวคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา
- ลูกชาย "บรรยิน" เยี่ยมพ่อ เผยนอนคุกคืนแรกนอนหลับดี เชื่อไม่ผิดแต่โดนแกล้ง
ล่าสุด (25 ก.พ.63) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน คุมตัวนายประชาวิทย์ , นายชาติชาย และ นายณรงค์ศักดิ์ 3 ผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 70 ปี พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้ยกฟ้องคดีการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ
โดยจุดแรกบริเวณบ้านที่มีชื่อของของ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ครอบครอง ตั้งอยู่ภายในซอยรัชดาภิเษก 33 หลังด่านเก็บเงินค่าทางด่วนย่านรัชดา ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ อ้างว่าจุดนี้ใช้เป็นที่พัก วางแผน และรวมตัวกันก่อนลงมือก่อเหตุ
จุดต่อมาบริเวณจุดรวมพลหน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซอยเจริญกรุง 63 เป็นจุดที่ผู้ต้องหามาดักรออุ้มตัวนายวีรชัย ขึ้นรถเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยนายณรงค์ศักดิ์ (เสื้อขาว) รับว่าเป็นคนล็อกตัวขึ้นรถ ส่วนนายชาติชาย (เสื้อแดง) เป็นคนดันตัวขึ้นรถ ขณะที่นายประชาวิทย์เป็นคนล็อกตัวขณะอยู่บนรถ ก่อนจะรุมทำร้ายร่างกายระหว่างทาง ซึ่งหลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 3 รายที่เหลือ ได้แก่ คพ.ต.ท.บรรยิน, นายมานัส ทับนิล และนายธงชัย วจีสัจจะ ยังคงยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน และพวกรวม 6 คน ไปฝากขังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ใน 6 ความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ซ่องโจร,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ”