ปู่-ย่า ป่วยโควิด-19 หลังไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วแพร่สู่หลาน 8 ขวบ ทำไทยติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย โดยทั้งหมดมาจากครอบครัวเดียวกัน รายที่ 1 เป็นชายไทยอายุ 65 ปี เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยอาการ ไข้ ไอ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นบวก จึงส่งตัวรักษาต่อที่สถาบันโรคทรวงอก รายที่ 2 เป็นหญิงไทยอายุ 62 ปี (เป็นภรรยา ติดเชื้อมาจากประเทศญี่ปุ่น) และรายที่ 3 เด็กชายไทยอายุ 8 ปี (เป็นหลาน) ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 1 รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร โดยขณะนี้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงได้ทุกราย ส่วนผู้ร่วมเดินทางอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาตรวจรักษา

• โรงพยาบาลบีแคร์ แถลงผู้ป่วยชายไทยปกปิดประวัติ ทำบุคลากร 30 คน เสี่ยงติดโควิด-19

ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ป่วยโควิด-19 ที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ พบมีจำนวนเพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 35 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร และชายจีนอายุ 62 ปี จากสถาบันโรคทรวงอก ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายอื่น

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 ยังไม่เกิดการระบาดในประเทศ และยังไม่มีผู้ป่วย Super Spreader เบื้องต้นมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 24 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 16 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 40 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ (Index Case) หรือผู้ป่วยรายแรกๆ ในระบบรายงานจำนวน 26 ราย และผู้ป่วยในกลุ่มสัมผัสใกล้ชิด (High Risk Contact) จำนวน 14 ราย

โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมาย ทำให้ตรวจพบได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมบังคับใช้กฎหมายหลังพบผู้ป่วยปกปิดประวัติการเดินทาง และสั่งไม่ให้ผู้มีความเสี่ยงเข้าเมือง เช่น การส่งกลับผู้เดินทาง 2 ราย ที่มาจากเรือสำราญ Diamond Princess ทั้งนี้ เพื่อควบคุมการระบาดด้วยมาตรการขั้นสูงสุด หลังพบผู้ป่วยที่กลับจากญี่ปุ่น ขณะเดียวกันยังสั่งการข้าราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขงดเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังระบุถึงกรณีที่ในช่วงนี้มี สายการบิน และ บริษัททัวร์ หลายแห่งจัดโปรโมชั่นลดราคา เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่มีการระบาดของโควิด-19 โดยยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ไม่คุ้มค่าความเสี่ยง และขอให้ประชาชนรักตัวเอง เนื่องจากการเดินทางไปท่องเที่ยวอาจทำให้ตนเองติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลอันตรายกับชีวิต