แกะรอยจากแอปฯ สั่งอาหาร รวบอดีตตำรวจหนีจาก รพ. สงสารลูกไม่เคยรู้พ่อเป็นผู้ต้องหา
แกะรอยจากแอปฯ สั่งอาหาร ตามรวบอดีตตำรวจหนีออกจากโรงพยาบาล เผยซ่อนหลอดดูดในปากใช้สะเดาะกุญแจมือ สารภาพเดินเส้นทางผิด สงสารลูกที่ฝันอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (26 ก.พ.) ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสืบสวน สภ.สันป่าตอง ควบคุมตัว นายปวเรศ อายุ 45 ปี อดีตตำรวจสืบสวนผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ที่หลบหนีจากโรงพยาบาลบาลสันป่าตอง ระหว่างควบคุมตัวกลางดึกวันที่ 24 ก.พ. ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ออกติดตามจนจับกุมได้เมื่อเช้าวันนี้ ไปสอบสวนที่ สภ.สันป่าตอง
โดยมี พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เดินทางไปสอบสวนก่อนแถลงรายละเอียดกับสื่อมวลชน พล.ต.ต.พิเชษฐ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าหลังจากที่ถูกจับกุม ผู้ต้องหาได้ทำทีบาดเจ็บหนักและขอพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสันป่าตอง ซึ่งได้มีภรรยาของผู้ต้องหามาเฝ้าดูอาการด้วยความเป็นห่วง โดยมีตำรวจจัดเวรยามเฝ้าที่โรงพยาบาล
ระหว่างแพทย์ได้นำตัวผู้ต้องหาไปเข้าห้องเอ็กซเรย์ เพื่อสแกนจุดที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเจ็บหนัก จังหวะนั้นผู้ต้องหาได้แอบหลอดพลาสติกที่ใช้ดูดน้ำในห้องเอ็กซเรย์ซ่อนไว้ในปาก ก่อนที่ผลตรวจร่างกายออกมาว่าอาการผู้ต้องหาไม่เป็นไร
กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ให้ภรรยาผู้ต้องหากลับไป แต่ผู้ต้องหาได้แอบบอกภรรยาให้รอที่รถหลังโรงพยาบาล จนกระทั่งเวลาประมาณตี 3 ผู้ต้องหาก็ใช้หลอดดูดไขกุญแจมือ ก่อนย่องปีนหน้าต่างหลบหนีไปหาภรรยา พากันหลบหนีไป
จากนั้นเมื่อถูกตามล่าตัวก็ได้มาหลบหนีอยู่ที่บ้านสวนของพ่อตา ที่กำลังปรับปรุงพื้นที่เป็นห้องว่างให้เช่า ซึ่งผู้ต้องหาและภรรยาก็ไม่ใช้มือถือ แต่ภรรยาแอบเปิดมือถือ เพื่อใช้แอปพลิเคชั่นสั่งอาหารออนไลน์ ทำให้ตำรวจทราบความเคลื่อนไหวและได้บุกเข้าจับกุมตัวในเช้าวันนี้
ขณะที่ นายปวเรศ ยอมรับว่าตนเองเลือกเส้นทางผิด ที่ผ่านมาทางผู้บังคับบัญชาและครอบครัวก็ได้ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด และที่ผ่านมาลูกไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนเป็นผู้ต้องหา เพราะยังคิดว่าตนเป็นตำรวจ และลูกอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อ ขณะที่ พล.ต.ต.พิเชษฐ บอกว่าหลังจากนี้ขอให้กลับเนื้อกลับตัว ขอให้สงสารภรรยาและลูก
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา หลบหนีระหว่างที่คุมขังและได้ดำเนินคดีกับนางสาวดาวรรณ ภรรยา ข้อหา ช่วยเหลือผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้ต้องโทษ
สำหรับนายปวเรศ เป็นนักเรียนพลตำรวจรุ่น 47 หลังจบหลักสูตร เข้ารับราชการเมื่อปี พ.ศ.2539 ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนอกจากอาชีพตำรวจแล้ว ยังทำอาชีพเสริมอื่นเป็นเจ้ามือรับพนันบอล และหวยใต้ดิน แล้วถูกลูกหนี้เบี้ยวเงินไปจำนวนหลายแสนเมื่อประมาณปี 2545-2546
ต่อมา นายปวเรศ ขณะนั้นเป็นตำรวจอยู่ ยศ ส.ต.ท. ได้ไปทำธุระที่จังหวัดลำปาง แล้วบังเอิญไปเจอลูกหนี้ ที่เคยเบี้ยวหนี้ จึงได้ก่อเหตุยึดข้าวของของลูกหนี้ภายในห้างดัง ก่อนถูกแจ้งความดำเนินคดีจนถูกออกจากราชการตำรวจและถูกจำคุกเมื่อออกมาได้ก่อเหตุลักทรัพย์ งัดบ้าน จนถูกหมายจับของสถานีตำรวจหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่