อดีตผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเองก่อเหตุกินยาตายแต่ไม่ตาย ก่อนเผาตัวเองดับสยองคารถกระบะ

อดีตผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเองก่อเหตุกินยาตายแต่ไม่ตาย ก่อนเผาตัวเองดับสยองคารถกระบะ

อดีตผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเองก่อเหตุกินยาตายแต่ไม่ตาย ก่อนเผาตัวเองดับสยองคารถกระบะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเองเมื่อปี พ.ศ.2554 กลับมาบ้านเก่า กินยาฆ่าตัวตายแต่ชาวบ้านช่วยทัน ก่อนเผาตัวเองตายหลังรถกระบะร่างไหม้เกรียมดับสยอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (27 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. สภ.สำนักทอง อ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งมีคนเผาตัวเองในรถยนต์ ที่เกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 8 ต.สำนักทอง เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ปล่อยทิ้งร้างใส่กุญแจหน้าบ้าน โดยบ้านอยู่ในสวนยางพารา ห่างจากถนนสายกะเฉด-สำนักทอง 3 กม. ข้างบ้านมีรอยไฟไหม้หญ้าเป็นวงกว้าง

พบซากรถกระบะ แคปอีซูซุทะเบียน 1964 ระยอง จอดหันหน้าเข้าบ้านถูกไฟใหม้ทั้งคัน ที่ในกระบะท้ายรถ พบร่างผู้เสียชีวิตสภาพไหม้เกรียมจนไส้ทะลักน่าสยดสยอง นอนหงายหันหัวเข้าหน้ารถ ทราบชื่อคือ นายธา (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี อยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุ และเป็นเจ้าของรถคันเกิดเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้

จากการสอบถาม นางลัดดา อายุ 43 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า ผู้ตายเคยเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเคยอยู่อาศัยกับครอบครัว กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าลูกตัวเองเมื่อปี พ.ศ.2554 ศาลตัดสินจำคุก 10 ปี หลังพ้นโทษก็ย้ายไปอยู่จันทบุรี ขายบ้านพร้อมที่สวนยางให้กับขาวต่างชาติ และได้ภรรยาใหม่

ต่อมาเมื่อ 2 เดือนก่อนภรรยาใหม่ผูกคอตายที่บ้านจังหวัดจันทบุรี นายธาณีจึงวนเวียนกลับมาที่บ้านเดิมหลังนี้ด้วยความผูกพัน แต่ไม่ยอมพูดคุยกับใครเลย เมื่อวานนี้ก็ได้กินยาฆ่าตัวตายตนเองและชาวบ้านช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล แต่นายธาณีปฏิเสธการรักษา ไม่ยอมให้แพทย์ล้างท้อง

เมื่อกลับมาที่บ้านหลังนี้ก็ได้จอดรถ ตนเองยังเหลือบไปเห็นในรถ มีทั้งขวดน้ำมัน และเหล้า 1 ขวด ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนในที่สุดก็กลับมาก่อเหตุเผาตัวเองพร้อมรถยนต์เสียชีวิต ซึ่งเมื่อช่วงสายขณะตนเองอยู่บ้านก็มีคนมาแจ้งว่าเห็นไฟลุก ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ส่งศพพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัด ก่อนจะให้ญาตินำศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ อดีตผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเองก่อเหตุกินยาตายแต่ไม่ตาย ก่อนเผาตัวเองดับสยองคารถกระบะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook