เปิดคลิปเจ้าของฟาร์มผักชื่อดังขับปอร์เช่ชน จยย. ทำสาวเบญจเพสตายคาที่ เจ็บอีก 1

วงจรปิดจับภาพไว้ได้ นาทีเจ้าของฟาร์มผักชื่อดังขับปอร์เช่ เฉี่ยวรถจักรยานยนต์ สาวเบญจเพสตาย 1 สาหัส 1 ก่อนพุ่งชนร้านข้างทางจนพลิกตะแคงข้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 ก.พ.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.ท.ธนวัฒน์ บุญช่วย รองสว.สอบสวน สภ. สวนพริกไทย รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจยย.มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่เกิดเหตุถนนรังสิต-ปทุมธานี  มุ่งหน้าปทุมธานี หน้าร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง หมู่ 5 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี

ที่เกิดเหตุริมทางด้านซ้ายพบรถเก๋งหรูปอร์เช่ สีขาว ทะเบียน 3344 กรุงเทพฯ สภาพพลิกตะแคงข้างได้รับความเสียหาย ด้านหน้ารถสภาพพังยับเยินกระจกหน้าแตก ภายในรถพบกล่องไก่ทอดตกอยู่จำนวน 2 กล่อง ห่างออกไปประมาณ 60 เมตร พบรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้มดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกชนจนได้รับความเสียหายล้มอยู่กลางถนน

ก่อนถึงจุดที่รถจยย.พลิกคว่ำอยู่ประมาณ 100 เมตร กลางถนนพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.ศิ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ผู้ซ้อนท้ายรทุมธานี ไปก่อนหน้าทราบชื่อ น.ส.ทัศ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี

ที่บริเวณริมทางยังพบเต็นท์จำหน่ายสินค้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และร้านเครื่องเสียงถูกชนจนได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ขับขี่รถปอร์เช่ทราบชื่อ นายสุ เจ้าของฟาร์มผักชื่อดัง อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่ โดยมีพลเมืองดีให้ความช่วยเหลือนำส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส นอกจากนี้ ที่ขอบทางฝั่งขวามีร่องรอยการชนได้รับความเสียหาย

จากการสอบถาม นางสาวขวัญฤดี อายุ 26 ปี แฟนเจ้าของร้านเครื่องเสียง เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองนอนหลับสนิทได้ยินเสียงรถชนกันโครมสนั่นจึงออกมาดู ก็พบว่ามีรถเกิดอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย ส่วนผู้ขับขี่รถปอร์เช่เป็นชาย 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย โดยกล้องวงจรปิดหน้าร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้บางส่วน

ทางด้าน ร.ต.ท.ธนวัฒน์ บุญช่วย รองสว.สอบสวน สภ.สวนพริกไทย เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์ พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน  เบื้องต้น ผู้ขับขี่ ให้การว่า ได้ขับรถออกมาซื้อไก่ทอดที่เปิด 24 ชั่วโมง และกำลังกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถจยย.ขับด้านหน้าและขับคร่อมเลนออกมาในช่องทางเดินรถ ผู้ขับขี่จึงหักออกมา แต่หลบไม่พ้นจึงชนเข้ากับจยย.และขอบทาง

อย่างไรก็ตาม จะได้มีการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ขับขี่เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป