ไวรัสโคโรนา: อนุทิน ยันมียาเพียงพอรักษา นายกฯ เผยมีแผนใหม่รับมือ โควิด-19

ไวรัสโคโรนา: อนุทิน ยันมียาเพียงพอรักษา นายกฯ เผยมีแผนใหม่รับมือ โควิด-19

ไวรัสโคโรนา: อนุทิน ยันมียาเพียงพอรักษา นายกฯ เผยมีแผนใหม่รับมือ โควิด-19
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังพบนายหยาง ซิน อุปฑูตจีนประจำประเทศไทย ว่าขอให้ช่วยเจรจากับผู้ผลิตยาที่ได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตยาการรักษาไวรัสโควิด-19 ที่มีสรรพคุณใช้ได้ดีกับผู้ป่วย โดยให้ทางการไทยสามารถซื้อยาเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากยาที่นำมารักษาใช้ในการรักษาคนจีนกว่าครึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางการจีนยังไม่อนุญาตให้มีการขายยาออกนอกประเทศ โดยขอให้นายหยางช่วยประสานงานให้ไทยซื้อยาได้

รัฐมนตรีรายนี้ ยืนยันว่าขณะนี้ไทยมียาเพียงพอกับการรักษายับยั้งอาการให้หายได้ หากไม่มีการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากกว่านี้ ดังนั้นกระแสข่าวที่ไม่มียารักษาผู้ป่วยไม่เป็นความจริง และองค์การเภสัชกรรมซื้อยานี้ได้จำนวนหนึ่งโดยใช้ความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้ผลิตยาด้วยกัน โดยนำเข้ามาได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากการรักษา ไทยมีความมั่นใจมากขึ้น โดยจากผู้ป่วย 43 ราย กลับบ้านได้ 28 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 14 คน เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งยังไม่แน่ชัดในสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากไวรัสโควิด–19 หรือไม่ ต้องรอการพิสูจน์ทางการแพทย์

ส่วนผู้ป่วย 43 ราย 2 ใน 3 รักษาหายด้วยดารใช้ยาที่มีอยู่ในประเทศ เพราะปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง พร้อมย้ำผู้ที่เสียชีวิตเมื่อวานนี้รักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด–19 หายแล้ว แต่อาการป่วยจากโรคอื่นประกอบ ทำให้ต่อสู้กับโรคนี้ไม่ได้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไทยมียาเพียงพอที่จะรักษาการติดเชื้อโควิด–19 ได้

แจงนายกฯ เตรียมประกาศแผนบูรณาการใหม่ รับมือโควิด 

นายอนุทิน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะประกาศแผนบูรณาการป้องกันรับมือโควิด–19 วันนี้ (2 มี.ค.) โดยยังไม่ใช่การประกาศยกระดับเข้าสู่ระยะที่ 3 เพราะยังไม่มีการแพร่ติดต่อกันเองของคนสู่คนในประเทศ ในลักษณะที่เป็นคนหมู่มาก ขณะนี้ยังอยู่ในระยะที่ 2 โดยการกำหนดระยะเป็นการกำหนดขึ้นมาเอง สำคัญที่สุดต้องมียารักษาผู้ป่วย มีบุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลเพียงพอ

ส่วนมาตรการในการป้องกันดูแลตนเอง ขอให้กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด หากป่วยให้สวมหน้ากากอนามัย ส่วนปัญหาการคลาดแคลนหน้ากากอนามัย สามารถที่จะใช้หน้ากากผ้าแทนได้ เพราะถือเป็นการป้องกันการสัมผัสเท่านั้น หากต้องการป้องกันจริงต้องปิดทั้งหน้า สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น และหากทุกคนร่วมมือกันใช้หน้ากากผ้า คนที่กักตุนหน้ากากอนามัยก็จะปล่อยสินค้าออกมาขายเอง อีกทั้งการใช้หน้ากากอนามัยต้องคำนึงถึงการกำจัดว่าจะเป็นการสะสมเป็นเชื้อโรค

ขณะเดียวกันนายอนุทิน ได้ปฏิเสธแสดงความเห็นกรณีนักวิชาการด้านการแพทย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้ที่ไม่ป่วยแล้วใส่หน้ากากอนามัยจะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่า โดยจะให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ชี้แจง ซึ่งตนเห็นด้วยหากไม่ป่วยก็ไม่ควรใช้ แต่ควรให้ใช้กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลหรือเมื่อเข้าไปสู่พื้นที่แออัด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook