ไวรัสโคโรนา: สาธารณสุขยืนยัน หน้ากากอนามัยแบบมีสารเคลือบ ค่อยใช้ตอนป่วย
นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 แถลงวันนี้ (2 มี.ค.) ว่าหน้ากากอนามัยแบบมีสารเคลือบ สำหรับใช้ในการแพทย์ (Surgical Mask) แนะนำให้ใช้ตอนที่ผู้ใช้มีอาการป่วย เนื่องจากการผลิตทำได้จำกัดและเมื่อมีความต้องการจากผู้ใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ก็อาจทำให้ขาดตลาดได้
ก่อนหน้านี้ แพทย์รายหนึ่งในสหรัฐให้ความเห็นว่า ผู้ที่ไม่มีอาการป่วยไม่ต้องใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ขณะเดียวกันการสวมหน้ากากอนามัยจะยิ่งทำให้มือของผู้ใช้ สัมผัสกับใบหน้าตัวเองมากขึ้น เพราะต้องใช้มือ ถอด ใส่ หรือ จัดหน้ากากอนามัย จึงยิ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อมากขึ้น
สาธารณสุขวิเทศก์รายนี้ระบุว่า ชุดความรู้ดังกล่าวเป็นความจริง
"อันที่ 2 เป็น Surgical Mask เป็นหน้ากากอนามัยที่มีสารเคลือบด้านหน้านะครับ เพื่อป้องกันการซึมผ่านของละออง หยดของสารคัดหลั่งจากร่างกายทั้งหลายเนี่ย ตรงนี้เราเน้นย้ำให้กับคนที่ป่วย และบุคลากรรับผิดชอบผู้ป่วย เพราะฉะนั้นตรงนี้ที่บอกว่าแจกไป 3 ชิ้นเนี่ย ก็คือ ไว้ตอนป่วยนะครับ ค่อยใช้ เพราะว่าตอนนี้เกิดดีมานด์มากๆ ต้องการกันเยอะๆ แล้วเอาอันนี้ใช้กันเลย เพราะฉะนั้นมันก็ขาดตลาด เพราะฉะนั้นความจำเป็นเนี่ย อย่างที่ต่างประเทศ ก็ให้ข้อมูลชุดนี้มาเนี่ย ซึ่งก็ถูกต้องนะครับ" นายทวีศิลป์ กล่าว
นอกจากนี้ นายทวีศิลป์ยังกล่าวถึงหน้ากากอนามัยอีก 2 ประเภท คือ หน้ากากแบบผ้า ที่สามารถทำได้เอง และหน้ากากอนามัยแบบ N95 (เอ็นเก้าห้า) โดยหน้ากากอนามัยแบบผ้า ป้องกันโรคไม่ได้ 100% แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้คลุกคลีกับคนมากและมีความเสี่ยงต่ำ ขณะที่หน้ากากแบบ N95 จะใช้ก็ต่อเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อแล้ว
นายทวีศิลป์ ย้ำว่า ไม่ว่าจะใส่หน้ากากอนามัยอย่างไร ก็ขอให้ใส่ให้ถูกประเภท