หนุ่มวัย 32 ป่วยปอดติดเชื้อ กังวลติดไวรัสโควิด-19 สุดท้ายผูกคอตายหน้าบ้าน
(3 มี.ค.63) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.สุทิน พุ่มพวง สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายผูกคอตายที่บริเวณประตูรั้วทางเข้าบ้าน ต.ด่านสำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่บริเวณประตูรั้วทางเข้าบ้านได้พบศพ นายสราวุธ อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นดินข้างประตูในสภาพที่ลำคอมีสายยางขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตรผูกติดอยู่ที่ลำคอ และที่ประตูรั้วด้านบนยังมีเศษสายยางขนาดเดียวกันผูกติดอยู่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นตามลำตัวไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน
ที่ภายในแคมป์พักคนงานภายในสถานที่ก่อสร้างดังกล่าวได้พบกระเป๋าสัมภาระของผู้ตายวางอยู่ และทีบันไดทางขึ้นได้พบสายยางขนาดเดียวกันถูกลนตัดด้วยไฟวางอยู่ ในแคมป์พักยังพบไฟแช็คสีเหลืองวางอยู่ข้างโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และจากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสัมภาระของผู้ตายพบใบนัดของแพทย์ที่นัดให้ผู้ตายไปตรวจในวันนี้วางอยู่ และจากการประสานแพทย์ที่ลงอยู่ในใบนัด ได้ทราบว่าผู้ตายมีอาการปอดติดเชื้อซึ่งมีลักษณะป่วยเป็นวัณโรค แต่ผู้ตายยังไม่ทราบ ทราบเพียงว่ามีอาการปอดติดเชื้อเท่านั้น จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบถาม น.ส.เนตร์ทราย อายุ 31 ปี ซึ่งมาพบเห็นผู้ตายนอนอยู่ที่หน้าประตูรั้ว ได้เล่าว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ตนได้เดินออกมาหายายที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ได้พบเห็นผู้ตายนอนอยูที่พื้นหน้าประตู จึงได้เดินไปเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงได้ใช้เท้าเขี่ยที่ขาผู้ตายดูพบว่าตัวของผู้ตายแข็ง จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าที่มาตรวจสอบ
เบื้องต้น หลังจากพูดคุยกับแพทย์เจ้าของไข้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเกิดอาการเครียดที่ตนเองป่วยด้วยอาการปอดติดเชื้อ และไม่รู้ว่าตนเองป่วยเป็นวัณโรค ประกับช่วงนี้อาการของเชื้อไวรัส โควิด 19 ก็มีอาการปอดติดเชื้อเช่นกัน ผู้ตายจึงเกิดอาการเครียดคิดว่าตนเองได้รับเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงตัดสินใจใช้สายยางวัดระดับน้ำที่วางอยู่ใกล้ผูกคอตัวเองตายดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป