อนุทิน ช็อกเหมือนกัน "ผีน้อย" ขอกลับไทยกว่า 5,000 คน ยังไม่ชัดให้กักตัวที่ไหน
วันนี้ (3 มี.ค. 63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ขอเดินทางกลับประเทศไทยกว่า 5,000 คนว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ซึ่งวันนี้จะกลับไปรวบรวมข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนนำไปหารือในการประชุมในวันพรุ่งนี้กับนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามาตรการกรณีนี้โดยเฉพาะ ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกช็อก เพราะไม่ทราบว่ามีปัญหานี้มาก่อน โดยมาตรการที่นำมาใช้กับผีน้อยจะเข้มข้นกว่าการเคลื่อนย้ายบุคคลมาจากอู่ฮั่น เนื่องจากเป็นระบบปิดที่รัฐบาลนำเครื่องบินไปรับ แต่กรณีนี้เป็นระบบเปิดที่ต่างคนต่างสามารถเดินทางกลับมาโดยเครื่องบินพาณิชย์
นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย
- ญี่ปุ่น
- เยอรมนี
- เกาหลีใต้
- จีน รวมถึงมาเก๊าและฮ่องกง
- ไต้หวัน
- ฝรั่งเศส
- สิงค์โปร์
- อิตาลี และ
- อิหร่าน
จะทำให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการปฏิบัติได้มากขึ้น รวมถึงจะสามารถดำเนินการได้ตามผลการประชุมที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ นอกจากจะมีประโยชน์ในการป้องกันแล้วยังสามารถบังคับใช้กับกลุ่มผีน้อยและผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้มีการกักตัว 14 วัน แต่ยังไม่ใจว่าจะกักตัวที่บ้านหรือสถานที่ที่จัดให้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการกักตัวผู้ที่ถูกกักตัวจะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่นั้น จะออกเป็นมติการประชุมในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันถึงความพร้อมในการรับมือกับผู้ที่เดินทางกลับ ทั้งเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ ห้องพยาบาล และการคัดกรอง ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรับ แต่มาตรการเชิงรุกต้องประสานงานสถานทูตไทยในกรุงโซลและสายการบิน เพื่อให้จัดการกับกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อในการเดินทางกลับไทย ย้ำว่าไม่ใช่แค่ผีน้อยแต่เป็นทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งนายอนุทินยืนยันว่าไทยยังไม่เข้าสู่การระบาดของโควิด 19 ในระยะที่สาม เนื่องจากยังสามารถประคองสถานการณ์ได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่รายนั้นมีอาการป่วยจากโรคอื่นอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยืนยันว่าหน้ากากอนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาลเพียงพอ เพราะใช้วันละ 350,000 ชิ้นต่อวัน ซึ่งกระจายไปเพียงพอ และมีบางส่วนที่กระทรวงกักตุนไว้ใช้ในกระทรวง แต่ไม่ขาดแคลน