"ทราย เจริญปุระ" เจอบ่อยแต่ยังไม่ชิน ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ อีกเรื่องในชีวิตที่เจ็บตัว
ทำเอาหลายคนตกอกตกใจกันยกใหญ่ เมื่อเห็นบริเวณมือข้างขวาของนักแสดงสาว ทราย เจริญปุระ ถูกพันด้วยผ้าเพื่อดามไว้ งานนี้พอมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอจึงได้สอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
โดย ทราย เจริญปุระ เผยว่า ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น บวกกับการหยิบ ยก หรือจับอะไรโดยผิดวิธี จึงส่งผลให้ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ซึ่งก็ได้มีการฉีดยาไปบ้างแล้ว และหากไม่มีดีขึ้นอาจได้ผ่าตัดก็พร้อมรับมือ ทั้งนี้เจ้าตัวยังเผยต่อว่า เจอกับอุบัติเหตุที่ทำให้เจ็บตัวค่อนข้างบ่อย แต่ก็ยังไม่ชิน พร้อมบอกเป็นแค่นี้คือว่าธรรมดามาก เพราะมากกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว
ถามถึงข้อมือเห็นว่าบาดเจ็บอยู่ เกิดอะไรขึ้น ?
“แก่แหละ (ยิ้ม) คือมันสะสมมาค่ะ การที่ใช้ชีวิตยกอันนู้น จับอันนี้แบบผิดวิธี มันทำให้ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ อาจจะเพราะอุ้มแมวมากเกินไป (หัวเราะ)”
ตอนที่มีอาการปวด เคยไปตรวจก่อนหน้านี้ไหม ?
“ไปตรวจแล้ว ฉีดสเตรอยมาแล้วรอบหนึ่งค่ะ และก็กลับมาเป็นอีก คือตอนนี้ถ่ายละครอยู่ด้วย และในละครต้องทำขนมค่ะ มันต้องจับ ต้องเกร็ง ต้องบิดมือ ตอนไหนที่ไม่ได้ทำก็พยายามใส่ตัวดามตัวนี้ไปก่อน”
คุณหมอได้บอกไหมว่าต้องถึงขั้นผ่าตัด ?
“จริงๆ หมอก็บอกตั้งแต่แรกว่า ยามันฉีดได้แค่ 2 ครั้งนะ เพราะถ้าเกิน 2 ครั้ง เส้นเอ็นมันจะหลุด ฟังแล้วดูแย่มากเลย ทรายเลยมาคิดว่าถ้าผ่าก็ต้องหยุดพักใช้งานมือไปประมาณ 1 เดือน ซึ่งมันเป็นมือข้างขวาไง เป็นข้างที่ถนัดของเรา ตอนนี้ก็เลยได้แค่ประคองอาการ และกายภาพ ออกกำลังไปก่อน”
โดนสั่งห้ามทำอะไรเป็นพิเศษไหม ?
“พยายามไม่ถามว่าหมอห้ามอะไรไหม เพราะถ้าถามต้องทำไม่ได้แน่ๆ (หัวเราะ) แต่ถ้าจะให้ฉีดยาซ้ำเขาก็จะไม่ฉีดให้ เพราะเราเพิ่งฉีดไปเมื่อปลายปีที่แล้วเอง มันยังไม่ถึง 6 เดือนอ่ะ มันกลับมาเป็นอีกแล้ว”
พอเราเซฟตัวเองมากขึ้น มีโอกาสหายกลับมาเป็นปกติไหม ?
“มีๆ แต่มันต้องใช้เวลา รวมถึงเราต้องใช้งานมันอย่างระมัดระวัง ไม่ฝืน ซึ่งคำว่าไม่ฝืนมันไม่มีอยู่จริงในวงการบันเทิงอ่ะ อย่างเวลาทำของล่น เราก็ต้องบิดมือเพื่อให้กล้องเห็นด้วย นึกออกใช่ไหม ดังนั้นมันเลี่ยงไม่ได้”
กระทบต่องานละครไหม ?
“ไม่ค่ะ เวลาถ่ายก็จะถอดตัวนี้ออก และทำการแสดงปกติ แต่น้องที่เป็นทีมงานจะรู้อยู่แล้วว่า สมมติล้มอย่าเอามือขวาลง ก็ต้องระวัง คือเราก็คิดไว้แล้วว่าถ้าเกิดสุดทางก็ต้องตัดมือ ใช่ไหม แต่ทุกคนก็ต้องคิดมันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เอาจริงๆ นี่ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุครั้งแรกของชีวิตเนอะ คอก็หักมาแล้ว กระดูกร้าว มันร้าวมาเยอะแล้ว อันนี้ก็ถือว่าแค่อักเสบเองเหรอ เธอยังเอาชนะฉันไม่ได้หรอก (ยิ้ม)”
การใช้ชีวิตปัจจุบันยากขึ้นไหม ?
“ไม่ต้องอะไรหรอก อย่างเวลาจะดัดขนตา มันบิดยากอ่ะ มันเจ็บ แต่ถ้าไม่ปัดเลยก็ไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ (หัวเราะ) ไม่ต้องถึงขนาดฝึกใช้มืออีกข้างหรอกค่ะ คือเราก็อยากให้ตัวกล้ามเนื้อมันรู้ด้วยว่าต้องใช้งานมันนะ แต่ก็ค่อยๆ เบามือกับมันหน่อย”
ต้องกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการไหม ?
“กินๆ แต่ก็ไม่ค่อยอยากเท่าไหร่ เพราะทุกวันนี้ก็กินยาเยอะมากอยู่แล้ว ไม่อยากกินอะไรให้มันเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่ในช่วงแรกๆ วันไหนที่หนักจริงๆ ก็ต้องกิน”
หากไม่ไหวจริงๆ จะตัดสินใจผ่าตัดไหม ?
“ผ่าค่ะ ทรายไม่กลัวการผ่า แต่กลัวไม่หายมากกว่า มันมีข้อแม้ของคุณหมอ เราก็เข้าใจได้ มันคงไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกแล้ว น่าจะพอได้แล้ว มันแค่จะทำให้เรารู้สึกจิตตกในบางทีที่เราทำงานได้ไม่เต็มที่ มันน่ารำคาญอ่ะ เหมือนเราช่วยตัวเองไม่ได้ อย่างหมุนพวงมาลัยก็ต้องใช้อีกมือมาช่วย จะหงุดหงิดแบบนั้นมากกว่า”
แอบท้อไหม ?
“ไม่นะ เพราะเจอมาตลอด (หัวเราะ) ถามว่าชินไหม ก็ไม่ได้ชินหรอกนะคะ แต่ก็คิดว่าเราไม่ใช่คนเดียวบนโลกที่มีเรื่องอ่ะ ทุกคนก็มีปัญหากันหมด ต่างคนต่างก็มีปัญหาแตกต่างกันออกไป ก็พยายามแก้ปัญหา หาทางออกให้กับตัวเอง เราก็มีปัญหาของเรา เราก็แก้ไป คนอื่นมีปัญหาของเขา เขาก็แก้ไป ไม่ได้น้อยใจอะไร”
ก่อนหน้านี้เห็นว่าโดนปลอมเฟซบุ๊ก เกิดอะไรขึ้น ?
“คือเท่าที่ดูย้อนหลังก็ยังไม่มีอะไรน่ากลัวนะ แต่เราก็ต้องบอกก่อนว่าถ้ามีอะไรที่มันกระจายไปจากเฟซนี้ มันไม่ใช่เรานะ ของเราเป็นอีกอันหนึ่ง ถ้าจะด่า ด่าให้ถูกเฟซด้วย อย่าไปด่าเฟซปลอม มาด่าเฟซจริง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีวันรู้เลนว่าเขาไปทักยืมเงินใครไหม คือแบบนี้มันมีอะไรแบบนี้เยอะไง เรากลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นมากกว่า ส่วนเรื่องด่ามันก็มีด่ามาจนชินแล้วแหละ”
เรารู้ได้ยังไงว่ามีเฟซบุ๊กปลอมเกิดขึ้น ?
“มีน้องมาบอกค่ะ ตัวเองอ่ะรู้ที่หลังคนอื่นตลอด ช้า อย่างบางทีขึ้นไปทำงาน 2-3 ชั่วโมง โลกเขาไปถึงไหนแล้ว เราก็ยังไม่ทัน เลยจะมีน้องคอยมาบอก”
มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหรือยัง ?
“ยังไม่มีค่ะ แต่กลัวมาก กลัวมีคนมาบอกว่าวันนั้นพี่ทักมาขอยืมเงินหนู เราจะรู้สึกแย่มากๆ เลยนะถ้าเป็นอย่างนั้น เราเลยต้องรีบชี้แจงว่าอันนี้ไม่ใช่นะ และก็รีพอร์ตไปจนปิดเฟซไปแล้วค่ะ”
ถามถึงคดีฟ้องร้องเป็นยังไงบ้าง ?
“เพิ่งเซ็นสำเนาให้ทนายไปเมื่อเช้านี่เองค่ะ ก็เพิ่มขึ้นไปอีก 3 คน เพิ่มจากเดิมที่มีคนหนึ่ง แล้วเราก็เพิ่มไปอีก 3 คน ไม่มีการนัดเคลียร์ค่ะ ก็ฟ้อง ให้ทนายทำสำนวนและส่งศาลประทับรับฟ้อง ของคดีแรกก็จะขึ้นศาลตอนเดือนพฤษภาคม เดี๋ยวต้องรอให้ศาลนัดอีกที ส่วนจะมีการยอมความหรือไกล่เกลี่ยไหม ก็ให้ศาลเป็นคนตัดสินค่ะ คือถ้าเรายอม เขาจะรักเราเหรอ ก็ไม่นะ ถ้าคนมันเข้าใจกันได้เราก็คงจะมาไม่ถึงขั้นนี้อยู่แล้ว”
3 คนนี้คือหนักสุด เราเลยตัดสินใจฟ้องใช่ไหม ?
“จริงๆ มันคือการซุ่มนะ เลือกๆ ดูเอาคนนี้แล้วกัน ไม่ต้องขุดเยอะ เพราะมันมีเรื่องอายุความ กดไปก็เจอหน้าเลย เจอที่อยู่ เจออาชีพเลย ยืนยันตัวตนง่าย คือจริงๆ ก็มีคนส่งเข้ามาอีกนะว่า คนนี้มันก็ด่าพี่นะคะ แต่น้องก็ต้องพักก่อน พี่ก็เหนื่อยเหมือนกัน (หัวเราะ) มันเสียเวลามากๆ เลยนะ มันต้องว่างและมีเงิน แต่เราก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้นไง”
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ