รวบพ่อหื่นข่มขืนลูกสาวแท้ๆวัย 15 ปี ลวงซ้อน จยย. ไปรับแม่ ก่อนลากไปข่มขืนข้างทาง

เมื่อเวลา วันที่ 5 มี.ค. 63 พ.ต.ท.ประสาท ฤทธิแสง รอง ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.สุริยา แสงอ่อนตา รองผกก.สอบสวน พร้อมตำรวจชุดสุรสีห์ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ร่วมกันแถลงข่าว ที่หน้า สภ.เมืองร้อยเอ็ด

จากกรณีเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา มี ด.ญ.บี (ชื่อสมมติ) อายุ 15 ปีเศษ พร้อมน้าสาวเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ปตินญา เซียสวัสดิ์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา พ่อแท้ๆ ชักชวน ด.ญ.บี ให้ไปรับแม่ ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งด้วยกัน เพราะแม่มีสิ่งของต้องขนกลับเยอะ ด.ญ.บี จึงได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของพ่อ ออกจากบ้าน

มาถึงสี่แยกถนนเลี่ยงเมืองร้อยเอ็ด ตัดกับถนนสาย ร้อยเอ็ด-วาปีปทุม พ่อได้เลี้ยวจักรยานยนต์เข้าสู่ถนนเลี่ยงเมืองร้อยเอ็ด-จตุรพักตรพิมาน เมื่อถึงระหว่างทาง พ่อเลี้ยวจักรยานยนต์ไปจอดข้างทางซึ่งเป็นป่าละเมาะ ก่อนใช้กำลังบังคับข่มขืน ด.ญ.บี ซึ่งพยายามขัดขืนและร้องเรียกให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครผ่านมา จนพ่อได้ข่มขืน ด.ญ.บี สำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วจึงพูดข่มขู่ห้ามบอกใครโดยเด็ดขาด

ต่อจากนั้นจึงพานั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปรับแม่ที่โรงแรมที่ทำงานอยู่  พอกลับถึงบ้านพัก ด.ญ.บีก็รีบเดินเข้าห้องนอนโดยตกอยู่ในความหวาดกลัว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ด.ญ.บี ทนไม่ไหว มาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้น้าหญิงฟัง น้าหญิงจึงพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ในช่วงกลางดึกของวันที่ 3 มี.ค.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 ร.ต.อ.หญิง ปตินญา เซียสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด สอบปากคำด.ญ.บี น้าสาว และรับผลการยืนยันจากแพทย์พบว่า ด.ญ.บี ถูกข่มขืนกระทำชำเราโดยพบคราบอสุจิตรงกับพ่อของผู้เสียหาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดร้อยเอ็ดออกหมายจับ พ่อ อายุ 37 ปี หลังจากนั้นจึงได้ออกติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ก่อนจะควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเรา ผู้สืบสันดาน โดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ และ กระทำความรุนแรงในครอบครัว” ก่อนจะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวมาแลงการจับกุม จึงได้ควบคุมต่อส่งศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป