ทิม พิธา นำ 55 ส.ส. อดีตอนาคตใหม่ ตบเท้าเข้า "พรรคก้าวไกล" ยืนยันยึดมั่นอุดมการณ์เดิม

ทิม พิธา นำ 55 ส.ส. อดีตอนาคตใหม่ ตบเท้าเข้า "พรรคก้าวไกล" ยืนยันยึดมั่นอุดมการณ์เดิม

ทิม พิธา นำ 55 ส.ส. อดีตอนาคตใหม่ ตบเท้าเข้า "พรรคก้าวไกล" ยืนยันยึดมั่นอุดมการณ์เดิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ นำ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวย้ายสังกัดไปร่วมกับพรรคก้าวไกล เตรียมยื่นใบสมัครในสัปดาห์หน้า โดยยืนยันว่าแม้จะย้ายพรรคแต่จะยังคงเดินหน้าในอุดมการณ์ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนนโยบายรวมถึงการต่อต้านระบอบเผด็จการ ซึ่งในระหว่างนี้ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ มีมติตั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน ส.ส. ชั่วคราว และให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นโฆษกกลุ่ม ส.ส. เป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ นายพิธา ยืนยันว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ส่วนการสานต่อนโยบายและอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่นั้นไม่ได้เป็นการรับอุดมการณ์มาแต่เป็นอุดมการณ์ร่วมของ ส.ส.ทุกคนที่เคยทำงานด้วยกัน หากหลังจากนี้นายธนาธรและนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จะปรากฏตัวที่รัฐสภา ขอให้อย่ามองว่ามีความเชื่อมโยงกันเพราะรัฐสภาเป็นพื้นที่ของประชาชนทั่วไปไม่ใช่พื้นที่ของ ส.ส. เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า ส.ส.ทั้ง 55 คน จะย้ายพรรคไปด้วยกันภายใต้พรรคใหม่ เพื่อทำงานให้กับประชาชนที่จับตามองอยู่ โดยยอมรับว่าถึงขนาดจะเล็กลงแต่คุณภาพจะไม่น้อยลง กลับกันจะมีความคล่องตัวมากขึ้น ภายใต้แกนนำของตนเอง ซึ่งจะมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นเพราะที่ผ่านมามีการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกน้อยเกินไป และย้ำว่าการทำงานของพรรคใหม่จะมีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น โดยมีเป้าหมายและความตั้งใจที่เรียบง่ายคือการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นเพื่อส่งต่อให้กับรุ่นต่อๆ ไป

ส่วนการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น ยังคงอยู่ระหว่างการประสานงานกับพรรคก้าวไกล โดยเจ้าของพรรคเดิมจะมีตำแหน่งภายในพรรคหรือไม่นั้นก็ยังคงอยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน เพราะขณะนี้ ส.ส.ทั้ง 55 คนยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล โดยคาดว่าปลายสัปดาห์หน้าจะสามารถสมัครเป็นสมาชิกพร้อมกันทั้งหมด

ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงคำถามที่มีต่ออดีต ส.ส. ว่าที่ผ่านมาจะถูกถามว่ากลัวพรรคจะถูกยุบหรือกลัวติดคุกหรือไม่นั้น ตนมองว่าคำถามเหล่านี้สะท้อนปัญหาทางการเมืองที่ผิดปกติ ทั้งที่พรรคยังไม่ได้เริ่มต้น แต่สังคมไทยคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะโดนคดี ซึ่งเป็นข้อยืนยันชัดเจนว่าคดีของพรรคอนาคตใหม่หรือคดีที่อาจจะเกิดขึ้นกับพรรคใหม่ ล้วนเป็นคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง จึงขอให้สังคมช่วยกันจับตาตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมอย่างใกล้ชิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook