รวบสองผัวเมีย อ้างเป็นแอดมินเพจช่วยเหลือสังคม หลอกคนป่วยมะเร็งโอนเงินกว่า 4 แสน

รวบสองผัวเมีย อ้างเป็นแอดมินเพจช่วยเหลือสังคม หลอกคนป่วยมะเร็งโอนเงินกว่า 4 แสน

รวบสองผัวเมีย อ้างเป็นแอดมินเพจช่วยเหลือสังคม หลอกคนป่วยมะเร็งโอนเงินกว่า 4 แสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ,พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม นายสำรอง (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”และนางสาววิไลลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”

พฤติการณ์กล่าวคือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกคาง, มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ ๔ กองบังคับการปราบปรามว่า ถูก นายสำรอง และน.ส.วิไลลักษณ์ ผู้ต้องหา หลอกลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของนายสำรอง และบัญชีเงินฝากของน.ส.วิไลลักษณ์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก สูญเงินกว่าสี่แสนบาท โดยถูกหลอกผ่านการโทรศัพท์และแชทข้อความทางเฟซบุ๊ก แอบอ้างเป็นแอดมินเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคม

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนก.ค. 2562 ได้มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือ น.ส.เอ และลูกสาว ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งคู่ ผ่านทางเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคม เป็นจำนวนหลายแสนบาท ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเห็นช่องทางในการหาเงิน จึงได้ใช้วิธีการแอบอ้างเป็นแอดมินเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคมโทรศัพท์หลอก น.ส.เอ ให้ช่วยบริจาคเงินเพื่อไถ่ชีวิตโค กระบือ และบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่จังหวัดขอนแก่น น.ส.เอ หลงเชื่อจึงได้โอนเงินจำนวน 419,490 บาท ไปยังบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหาทั้งสอง จากนั้น น.ส.เอ ได้ติดต่อไปยังแอดมินเพจจิตอาสาเพื่อเด็กและสังคมว่าได้โอนเงินบริจาคไปแล้ว แต่ทางแอดมินเพจดังกล่าวแจ้งว่าไม่ได้มีการรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่จังหวัดขอนแก่น และไม่ได้รับบริจาคเงินเพื่อไถ่โคกระบือแต่อย่างใด ซึ่งแอดมินเพจดังกล่าวจึงบอกกับ น.ส.เอ ว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จากนั้น น.ส.เอ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่านายสำรอง และน.ส.วิไลลักษณ์ ผู้ต้องหา เป็นสามีภรรยากัน พักอาศัยอยู่ที่อาพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งย่าน ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์ กระทั่งวันที่ 7 มี.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองราย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภายหลังจับกุมจึงทราบว่า น.ส.วิไลลักษณ์ เคยถูกจับกุมมาแล้วเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2561 ซึ่งครั้งนั้นได้หลอกลวงผู้เสียหาย โดยแอบอ้างเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณา หลอกลวงผู้ทุกข์ยากให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน มีผู้เสียหายสูญเงินไปนับแสนบาทเช่นเดียวกัน ซึ่งมูลเหตุในการกระทำความผิดในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบและต้องการนำเงินมาชำระหนี้




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook