Sanook คลุกข่าวเช้า 11 มี.ค. 63 โควิด-19 อิตาลีปิดทั้งประเทศ - สธ.ชี้เตือนระดับ 3 แต่ยังระบาดระยะ 2

Sanook คลุกข่าวเช้า 11 มี.ค. 63 โควิด-19 อิตาลีปิดทั้งประเทศ - สธ.ชี้เตือนระดับ 3 แต่ยังระบาดระยะ 2

Sanook คลุกข่าวเช้า 11 มี.ค. 63 โควิด-19 อิตาลีปิดทั้งประเทศ - สธ.ชี้เตือนระดับ 3 แต่ยังระบาดระยะ 2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Sanook คลุกข่าวเช้า ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2563 พบกันเป็นประจำทุกวัน ทีมงานได้เสิร์ฟข่าวที่น่าสนใจมาให้คุณถึงหน้าจอมือถือและเดสก์ท็อป เรียกว่าครบจบในเนื้อหาเดียวและที่สำคัญคุณสามารถเลือกกดปุ่มฟังเพื่อความสะดวกได้แล้ว โดยสังเกตได้จากสัญลักษณ์รูปลำโพง รับฟังพร้อมอ่านกันได้ทุกบรรทัดคุณจะไม่พลาดในทุกเหตุการณ์เด่นๆ เริ่มต้นด้วยข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อิตาลีประกาศปิดประเทศ

อิตาลี ยอดตายโควิด-19 พุ่งแซงเกาหลี สั่งปิดเมืองทั้งประเทศ ห้ามออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายประเทศกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤต เนื่องด้วยจำนวนตัวเลขคนติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น หนึ่งในนั้นคือประเทศอิตาลีที่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 9,172 ราย เพิ่มขึ้น 1,792 ราย เสียชีวิต 463 ราย จากรายงานคือเป็นการเสียชีวิตมากสุดนอกประเทศจีน และผู้ป่วยที่หายดีกลับบ้านได้อยู่ที่ 703 ราย ด้าน จูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศล็อกดาวน์ หรือปิดเมืองต่างๆ ในประเทศ ไม่ให้ผู้คนเดินทางเข้า-ออกในหลายๆ เมือง รวมถึงได้ประกาศว่าทั้งประเทศเป็นพื้นที่สีแดง ต้องคอยควบคุมเฝ้าระวังการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดไปมากกว่านี้ โดยอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านเพื่อทำงานและเหตุผลด้านสุขภาพเท่านั้น ทั้งนี้ จากการประกาศปิดเมืองทำให้โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานที่สาธารณะ รวมถึงโรงภาพยนตร์ โรงละคร และโรงยิม จะปิดทำการไปจนถึงวันที่ 3 เม.ย. รวมถึงอีเวนต์หลักๆ ด้านกีฬา การแข่งขันฟุตบอล Serie A ถูกระงับเช่นกัน ส่วนร้านอาหารมีกำหนดเคอร์ฟิวปิดตั้งแต่ 18.00 น. รวมถึงห้ามการชุมนุมของคนกลุ่มใหญ่

สาธารณสุขชี้ "อ่านดีๆ" โควิด-19 แจ้งเตือนระดับ 3 แต่ยังระบาดระยะ 2

การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังเป็นข่าวที่ประชาชนติดตามกันอย่างใกล้ชิด และบางครั้งอาจมีความสับสนในการรับข้อมูลข่าวจากโซเชียลมีเดีย ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังอยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งระยะที่ 2 หมายความว่ายังระบาดแค่วงจำกัดในประเทศ และยังสืบหาแหล่งต้นตอได้ นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังโพสต์ต่อไปอีกว่า หนังสือของกรมการปกครองที่ออกมาว่าที่มีการระบุว่าเป็นระดับ 3 เป็นการแจ้งเตือนเท่านั้น ไม่ใช่ระยะของการระบาดของโรค ซึ่งการแจ้งเตือนระดับที่ 3 หมายความว่า ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง "ว่าด้วยหนังสือของกรมการปกครอง ขอย้ำชัดๆ เน้นๆ ว่า ตอนนี้การระบาดของประเทศไทยอยู่ในระยะที่ 2 คือ มีการระบาดในประเทศในวงจำกัด สามารถสืบสวนหาแหล่งต้นตอได้ ส่วนการแจ้งเตือนเป็นระดับ 3 คือ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง #โควิด19" กระทรวงสาธารณสุขโพสต์ ดังนั้นจึงควรแยกให้ออกระหว่าง ระยะของการระบาด และ ระดับของการแจ้งเตือน

แหม่มโพธิ์ดำ กลับมาเปิดเพจ โต้ลั่นมีชีวิตเดียว ลาตายไว้แล้วตั้งแต่ออกมาเปิดโปง

แหม่มโพธิ์ดำ เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ที่เป็นหนึ่งในสื่อรายแรกๆ ที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมความน่าสงสัยของคนที่อยู่ในข่ายใกล้ชิดกับรัฐมนตรีว่ากักตุนหน้ากากอนามัย เพราะกระแสที่ออกมาแรงและเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจหนักมาก ต่อมาในช่วงค่ำของวันที่ 9 มี.ค. เพจแหม่มโพธิ์ดำไม่สามารถเข้าได้ทำให้เกิดกระแสว่าแอดมินเพจคาดเกรงไม่ปลอดภัยจึงต้องปิดเพจหนี กระทั่งล่าสุดเมื่อตอนบ่ายของวานนี้ (10 มี.ค.) เพจแหม่มโพธิ์ดำได้กลับมาเปิดอีกครั้งพร้อมโพสต์ตอบโต้ว่าไม่ได้รับเงินจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข่ามรัฐบาล ลั่นลาตายไว้แล้ว ตั้งแต่ออกมาเปิดโปง เรียกว่าสร้างความดีใจให้กับแฟนคลับของเพจดังกล่าวเป็นอย่างมาก พร้อมกับได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม

หนุ่มหายติดเชื้อ HIV คนที่ 2 ของโลกขอเผยตัว! ลั่นอยากเป็นความหวังให้ผู้ป่วย

เป็นอีกหนึ่งข่าวที่สร้างกำลังใจและสร้างพลังงานบวกให้กับกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ได้เป็นอย่างดี กับข่าวของ นายคาสติลโจ อายุ 40 ปี  ผู้ที่หายจากเชื้อ HIV เชื้อที่ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) ถือป็นคนที่ 2 ของโลก ที่ได้ออกมาเปิดเผยตัวตน เขาอาศัยอยู่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ นายคาสติลโจ ให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทม์ส สื่อชื่อดังจากสหรัฐว่า ตนเองได้รับเชื้อเมื่อปี 2546 แต่แล้วเมื่อปี 2555 พบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองต้องเข้ารับการปลูกถ่ายเปลี่ยนสเต็มเซลล์ ในความโชคร้ายมีเรื่องราวมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เพราะสเต็มเซลล์ของผู้บริจาคมีเซลล์กลายพันธุ์ (มิวเทชัน) 2 ชุด ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวต้านทานไวรัส HIV ได้ ต่อมานิตยสารด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เผยว่าเมื่อ 46 เดือนที่แล้ว นายคาสติลโจ เข้ารับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ หลังจากนั้น 16 เดือนก็เริ่มหยุดรับยาต้านไวรัสเอชไอวี อีก 18 เดือนต่อมาหลังจากหยุดรับยาต้าน ก็ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสอีก จนได้รับการประกาศให้เป็นผู้ที่หายจากไวรัสเอชไอวีเมื่อปีที่แล้ว ท้ายสุด นายคาสติลโจ ได้บอกว่าที่ตัดสินใจเปิดเรื่องราวเพราะอยากเป็นความหวังให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆ ว่า แม้โรคนี้จะรักษาหายได้ยาก แต่ก็หายได้ แต่ถึงไม่หายก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติได้เช่นเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook