พี่ชายช่วยน้องตกน้ำสุดท้ายหมดแรงจมน้ำเสียชีวิต กู้ภัยหวิดวางมวยกลัวถูกแย่งศพ

หนุ่มวัย 17 ปี ช่วยน้องชายลื่นตกน้ำ จนสุดท้ายตัวเองหมดแรงจมน้ำเสียชีวิต แต่ขณะนำศพขึ้นมาอาสาสมัครกู้ภัยหวิดวางมวยกันเหตุกลัวถูกแย่งศพ ท่ามกลางสายตาญาติและชาวบ้านจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวานนี้ (10 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิตที่ลำห้วยทราย อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงประสานอาสมัครหน่วยกู้ภัยต่างๆและทีมกู้ชีพโรงพยาบาลร่องคำเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณฝ่ายกั้นน้ำลำห้วยทราย น้ำลึกกว่า 5 เมตร นักประดาน้ำอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันงมหาร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาทราบชื่อคือ นายณัฐ อายุ 17 ปี ชาวบ้านหนองตาไก้ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตมาตกปลาที่บริเวณดังกล่าวกับญาติรวม 3 คน ระหว่างนั้นน้องชายคนเล็กได้ลื่นตกลงไปในน้ำ ทำให้นายณัฐซึ่งเป็นพี่ชายได้ลงไปช่วยน้องขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเองลื่นขึ้นมาไม่ได้จึงหมดแรงจมลงไปในหนองน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

ภายหลังที่อาสาสมัครกู้ภัยได้น้ำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาแล้ว กลับมีเหตุการณ์ที่ญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านรับไม่ได้เกิดขึ้น เนื่องจากมีชายแต่งชุดอาสาสมัครกู้ภัยอีกหน่วยงานหนึ่งส่งเสียงดังเอะอะโวยวายในลักษณะตำหนิและด่าอาสาสมัครกู้ภัยชุดแรก พร้อมกับเดินเข้าไปพยายามใช้ศอกทำร้ายร่างกายอาสาสมัครกู้ภัยคนหนึ่ง แต่มีผู้เข้ามาห้ามไว้ได้ก่อนที่จะวางมวยทำร้ายร่างกายกัน ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่ดูอยู่และญาติผู้เสียชีวิตที่กำลังเสียใจ โดยมีผู้ถ่ายคลิปวีดีโอได้บางช่วงบางตอน

เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการแชร์ในโลกออนไลน์จำนวนมาก ประกอบกับมีการโพสต์ภาพลูกกระสุนปืนและอาวุธปืน พร้อมทั้งข้อความในลักษณะข่มขู่ของอาสาสมัครกู้ภัยรายหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านที่เห็นคลิปเกิดความสงสัยว่า สาเหตุอาจจะเกิดจากอาสาสมัครกู้ภัยรายนี้กลัวว่าจะมีหน่วยกู้ภัยอื่นมาแย่งศพคนจมน้ำ ที่ทางหน่วยกู้ภัยร่วมใจเป็นผู้งมศพขึ้นมาได้หรือไม่ เนื่องจากมีการนำผ้าขาวมาปูเตรียมไว้ที่เปลวางศพ

ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เพราะการเข้ามาทำหน้าที่ของอาสาสมัครกู้ภัยนั้นต้องทำงานเสียสละให้กับสังคม และอยากเห็นหน่วยกู้ภัยทำงานร่วมกันอย่างสามัคคีกลมเกลียว

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางอำเภอกมลาไสยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย และเตรียมเรียกตัวมาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น